บริษัท แอล ดับเบิลยู เอสฯ เผยทิศทางตลาดอสังหาฯ และเทรนด์สำคัญช่วงครึ่งปีหลัง

บริษัท แอล ดับเบิลยู เอสฯ

แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด (LWS) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ยังคงทำหน้าที่เป็นผู้ให้ข้อมูลเชิงลึกและทิศทางของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ออกมาเปิดเผยแนวโน้มตลาดในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 และเทรนด์ที่น่าจับตามองในอนาคต

ตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีหลังยังคงชะลอตัว

LWS คาดการณ์ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 จะยังคงมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องจากช่วงครึ่งแรกของปี โดยมีปัจจัยหลักมาจาก:

  • ภาวะเศรษฐกิจ: ภาวะเศรษฐกิจในประเทศยังคงชะลอตัว ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง
  • นโยบายการเงิน: แม้อัตราดอกเบี้ยจะมีแนวโน้มลดลง แต่สถาบันการเงินยังคงมีความเข้มงวดในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ทำให้เกิดอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (Rejection Rate) ที่ค่อนข้างสูง
  • ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น: ราคาที่ดินและราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มต้นทุนการพัฒนาโครงการของผู้ประกอบการ

ด้วยปัจจัยเหล่านี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะชะลอแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ และหันมาเน้นการระบายสินค้าคงเหลือเพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินแทน

เทรนด์อสังหาฯ ที่น่าจับตามอง

LWS ได้ชี้ให้เห็นถึงเทรนด์สำคัญที่ผู้ประกอบการควรให้ความสนใจเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป ได้แก่:

  1. ตลาดคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้: จากพฤติกรรมของคนยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ทำให้โครงการคอนโดมิเนียมที่อนุญาตและมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยงได้รับความนิยมและมีกำลังซื้อสูง
  2. อสังหาฯ เพื่อสังคมสูงวัย: เนื่องจากประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ LWS ได้แนะนำ 6 ธุรกิจบริการที่ตอบโจทย์ผู้สูงอายุ เช่น ธุรกิจที่อยู่อาศัยที่มีบริการดูแลครบวงจร และธุรกิจบริการดูแลผู้สูงอายุถึงบ้าน
  3. การพัฒนาอย่างยั่งยืน: ผู้ประกอบการเริ่มให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อประหยัดพลังงานในระยะยาว
  4. ตลาดเช่ามาแรงสำหรับคนรุ่นใหม่: จากผลสำรวจของ LWS พบว่าคน Gen Z และ Gen Y ส่วนใหญ่เลือกที่จะ “เช่า” ที่อยู่อาศัยมากกว่า “ซื้อ” เนื่องจากต้องการความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต ซึ่งถือเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่า

โดยสรุปแล้ว แม้ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในช่วงครึ่งปีหลังจะยังคงต้องเผชิญกับความท้าทาย แต่การปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับเทรนด์และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จะช่วยให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต mingelbingo

By Burn