free to play movie หนังบู๊ หนังผจญภัย หนังการ์ตูน หนังชีวิตจริง
free to play movie ดังที่กล่าวเอาไว้ Kimi จัดได้ว่าเป็นหนังที่มีข้อความสำคัญเสียดสีสังคมเอาไว้ได้แสบสันต์พอควรอยู่นะ โดยยิ่งไปกว่านั้นการใช้ชีวิตพร้อมกันไปกับเทคโลโนยี ที่บางครั้งบางคราวเทคโนโลยีก็ยังไม่สามารถที่จะประมวลข้อมูลได้ทราบทันได้พอๆกับสมองของคนเรา แต่ว่าความละโมบและก็ความทะยานอยากของผู้คนนี่แหละซึ่งสามารถผันแปรเป็นอุปกรณ์บั่นทอนความเป็นมนุษย์ก้าวหน้าในระดับเจ๋งเลย
จากหนังสารคดีหัวข้อนี้ทำให้เห็นได้ชัดขึ้นมาว่า Titanic, Abyss, Avatar รวมทั้งผลงานอื่นๆเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากตัวตนของผู้กำกับ James Cameron จริงๆความหลงใหลสำหรับในการตรวจสอบใต้สมุทรลึกเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดที่เขาทำไททานิกด้วยเหตุว่าต้องการดำลงไปดูซากเรือของแท้ด้วยตาตนเองแล้วก็ถ่ายทอดให้คนทั่วทั้งโลกได้มองอีกสักหนึ่งครั้ง ตอนทำ Abyss เนื่องจากต้องการสร้างฐานะละครที่ได้ดำตรงลงไปใต้ห้วงมหาสมุทรลึกลับน่าค้นหาโน่น จวบจนกระทั่งวันหนึ่งตัวเขาเองคิดต้องการจะทำแบบนั้นบ้าง
มันเป็นการพิสูจน์ความต้องการที่ไม่ใช่แค่ได้ฝันได้พูด แต่ว่าจำต้องท้าด้วยชีวิตอย่างกล้าหาญมากมายๆชี้ให้เห็นว่าคนๆหนึ่งจะเสร็จได้จำต้องเริ่มที่การตัดสินใจใช้ความเก่งกล้าสนับสนุนความหวังไปได้สุดทางได้มากยิ่งกว่าหนึ่งอย่าง free movie t o stream ซึ่งคำตอบมิได้จบที่การเป็นเป็ดที่ครึ่งบินครึ่งหนึ่งลอยน้ำ แม้กระนั้นเป็นนกอินทรีที่ปีกกล้าด้วยขาอันแข็งแรง ทำให้นอกจากเรื่องราวใน Abyss ที่ประดิษฐ์จากจินตนาการ ในโลกเรื่องจริง James Cameron ก็สามารถดำตรงใต้ห้วงมหาสมุทรได้ลึกมากกว่านักแสดงของเขาเสียอีก โก้เก๋มั้ยล่ะ!
โชคดีที่อุซางิน้อยในภาคนี้ได้เจอแล้วว่า ไม่ต้องแย่งผัวของแม่ มาเป็นของตนเองก็ได้ ด้วยเหตุว่าในอนาคตคุณจะได้เจอกับ “คู่แท้” อย่างเฮลิออส ที่แปลงกายมาเป็นเปกาซัส (แถมรูปโฉมโนมพรรณที่จริงจริงก็หล่อ) กระทั่งสติเงินของนังหนูอุซางิน้อยกระเจิงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ถึงแม้ทรงจะมองมาดีขนาดนี้ แม้กระนั้นจนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีวี่แววอะไรก็ตามเพิ่มจากภาพยนตร์เรื่องดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว จนกระทั่งสุดท้ายสิทธิ์สำหรับการสร้างก็หมดลงในปี 2010 แล้วก็เปลี่ยนเป็นค่าย Universal Picture พร้อมด้วย Ron Howard ที่ผลงานสร้างชื่อในขณะนั้นเป็นThe Davinci Code ได้สิทธิ์สำหรับการสร้างไป แต่ว่าแล้วโปรเจคนี้ ก็โดนยุบอีกครั้งขอรับ เพราะเหตุว่าดันมีงบประมาณที่เบาๆมากขึ้นเรื่อยๆเรื่อยตลอดขณะที่โปรเจคกำลังปฏิบัติการ
หวนกลับมาเอ๋ยถึงภาพรวมของ Sailor Moon Eternal ใน PART 2 ที่ให้เหล่าเซเลอร์ตัวอื่นๆเผยตัว ไม่ว่าจะเป็น ยูเรนัส เนปจูน ดาวพลูโต รวมถึงแซทเทิร์น ซึ่งเปลี่ยนเป็นครอบครัว LGBTQ ได้บอกให้เห็นแล้วว่า ในเซเลอร์มูนนั้น ดูเหล่านักแสดงกลุ่มนี้ “ไม่มีเพศ” มาตั้งแต่ไหนแม้กระนั้นไร ผู้ชมย่อมรับทราบถึงความเก๋ สมาร์ทของเซเลอร์ยูเรนัสหรือเทนโอ ฮารุกะ ผู้เป็นตัวละครแฟนกับเซเลอร์เนปจูน โดยที่ผู้ชมเองก็ไม่เคยทราบสึกกระอักกระอ่วนหัวใจด้วยว่าพวกคุณเป็นตัวละครรักร่วมเพศ การมีอยู่ของสิ่งกลุ่มนี้ในมังงะสมัย 90 ก็เลยนับได้ว่าเป็นเรื่องที่ทันสมัย ทันสมัยแล้วก็ให้ท่านค่าของความเป็นคนอย่างทัดเทียมกัน
ตกลงว่าในรูปภาพรวมแล้ว Kimi ก็จัดได้ว่าเป็นหนังตื่นเต้นที่มองได้บันเทิงใจ อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีจังหวะเฉื่อยๆช้าๆอยู่บ้าง แต่ว่าเพียงพอเข้าที่เข้าทางได้แล้วหลังจากนั้นก็ถือได้ว่าหนังที่สนุกสนานพอได้เลย รับรองด้วยความสามารถนักสร้างภาพยนตร์ระดับแถวหน้าของฮอลลิวูด ทั้งยังแทรกใจความสำคัญใกล้ตัวสังคมในขณะนี้เอาไว้เจริญอีกด้วย
หนังบางทีก็อาจจะมิได้ยาวมากมาย การเล่าเรื่องบางครั้งก็อาจจะยังไม่กลมกล่อมละมุนละไม แม้กระนั้นจังหวะต่างๆก็เพลิดเพลินได้ในระดับที่ถูกใจทีเดียวบ่อยที่นักเขียนเห็นภาพตัวละครที่เป็นตัวเอกบนปกนิยายนี้ผ่านตา ก็รู้สึกอดไม่ได้จริงๆที่จะระลึกถึงศิลปินระดับตำนานอย่าง Clint Eastwood ในหน้าที่คาวบอยมาดโก้ไม่มีนาม หรือ Man with No Name ในรูปภาพยนตร์สามภาคชื่อเดียวกันนี้อย่าง Man with No Name ไม่ว่าจะอีกทั้งรูปหน้า
การแต่งตัว หรือแม้กระทั้งท่าทางที่ไม่ค่อยพูดต่อยหนักเช่นเดียวกันในฉบับนิยายเลยละ ซึ่งข้อพิพากษาที่คนเขียนคิดนี้ ดูเหมือนมีหลักฐานซึ่งสามารถเชื่อมโยงกันได้อยู่แถมออกมาจากปากของสตีเฟ่น คิงโดยตรงเลยละ โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า Roland Deschain หรือตัวเอกในนิยายเรื่องดังกล่าวข้างต้นนี้ เขาได้วาดรูปให้เป็น Clint Eastwood ในฉบับโลกแฟนตาซี
รีวิวหนัง American Underdog
ก้าวย่างอันเป็นตำนานของพ่อหนุ่มไก่รองบ่อน มาเจอกับหนังดราม่ากีฬาที่คงจะสร้างความตรึงใจแล้วก็แรงดลใจให้กับผู้ชมได้ไม่น้อย กับเรื่องราวของตำนานผู้เล่นอเมริกันบอลที่ถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ชีวิตของเขาน่าดึงดูดและก็สามารถชี้แนะทางให้กับหลายท่านที่หมดกำลังใจได้อย่างดีเยี่ยม แล้วก็โน่นได้พิจารณาออกมาเป็น “American Underdog” ที่เสมือนจะเป็นเพียงแค่เงื่อนดราม่าซาบซึ้งใจปกติแต่ว่าปรากฏว่าเมื่อได้ดูดซึมไปตลอดทางกลับสามารถทำให้น้ำตาซึมได้ในตอนสุดท้าย
หากแม้มันจะมีกลิ่นของการอวย James Cameron เองในหน ซึ่งหนังทำให้เห็นได้ชัดเจนพอควรว่าการตรวจสอบในคราวนี้มันมีสาระที่จะนำมาซึ่งผลต่อยอดได้ขนาดไหนที่ศึกษาค้นพบสิ่งมีชีวิตใหม่หลายสายพันธุ์ รวมทั้งบางทีอาจน้ำไปใช้ตรวจสอบพื้นใต้ห้วงมหาสมุทรเพื่อคุ้มครองป้องกันการสูญเสียจากการเกิดแผ่นดินไหวรวมทั้งสึนามิได้นะ แม้กระนั้นมันก็เป็นการชื่นชอบที่สมศักดิ์ศรีส่วนตัวเรา มันไม่ใช่แค่ความโก้ของการเอาอย่างความฝันตั้งแต่วัยเด็กของเขาให้เป็นจริงแล้ว แต่ว่ามันให้ผลดีต่อมวลมนุษยชาติ จุดนี้ขอโอเวอร์อวยเอง
แม้ว่าเรื่องราวใน Sailor Moon Eternal จะไม่มีอะไรเกินความคาดการณ์ว่าตอนสุดท้าย เหล่าธรรมมะ ย่อมชนะอธรรม แสงไฟย่อมชนะความมืดดำ แนวทางการมองโลกของเซเลอร์มูนก็เลยยังคงเป็นการดูอะไรที่เป็นขาวจัด ดำจัด ทุกๆอย่างยังถูกพาสพบร์ไรซ์เป็นมิติแบบเดิมๆสวนกับแนวความคิดเรื่องเพศที่ปรากฏอยู่ในมังงะชุดนี้ รู้เรื่องว่าเนื่องจากว่าเซเลอร์มูนภาคนี้ถูกปรับเปลี่ยนมาจากมังงะต้นฉบับ แต่ว่าก็แอบรู้สึกเสียดายมิได้ที่ ช่วงที่แปรไปมุมมองหัวข้อการดูความสุดขั้วเรื่องคุณความดี ความชั่วนั้นยังเป็นแนวทางดูแบบเดิมๆไปหน่อย
ขึ้นชื่อว่าผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์ สิ่งที่ผู้ชมอย่างพวกเราๆน่าจะเชื่อใจรวมทั้งวางใจ เป็นการตัดสินใจของพวกเขาในด้านต่างๆของหนัง ไม่ว่าจะวิธีการเสนอเรื่อง, การสั่งคัทเพื่อฉากที่ถ่ายทำที่ยอดเยี่ยม รวมถึงการเลือกผู้แสดงที่เขาพร้อมจะฝากความคาดหมายไว้ภายในเรื่องที่สุดซึ่งก็ดูเหมือนกับว่า Idris Elba ดาราหนังผิวสีคนนี้ จะเป็นตัวเลือกที่ Nikolaj Arcel ผู้กำกับของเรื่อง ให้ความเอาใจใส่เยอะที่สุดเพื่อมารับบท Roland Deschain ตัวละครที่เป็นตัวเอกนักแม่นปืนนี้ ที่ในฉบับนิยายนั้น สตีเฟ่น คิงได้ “วางลักษณะสันฐานไว้ให้เป็นหนุ่มผิวขาว”
ภาคนี้ได้ “แซม ไรมี” กลับมาถือจับหนังวีรบุรุษอีกที และก็แน่ๆว่ามาร์เวลเปิดช่องอิสระให้กับเขาได้ประดิษฐ์แล้วก็ตกแต่งจินตนาการซูเปอร์วีรบุรุษในมุมมองของเขาได้กว้างขึ้น รวมทั้งคำตอบที่ออกมานั้นจำต้องเห็นด้วยว่าเลยล่ะว่า มันอยู่ในแนวทางที่ประหลาดตาจากหนังมาร์เวลทั่วๆไปอยู่เช่นกัน ข่าวสารที่เคยรับรู้มาว่า “จะเป็นหนังที่น่าสยองที่สุดของมาร์เวล” อันนั้นก็มีความคิดว่าคงจะจริง เนื่องจากหนังประเด็นนี้ปรักปรำเขย่าขวัญรวมทั้งสยองขวัญมาเป็นลูกเล่นที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในแนวถนัดของผู้กำกับรายนี้เลย
ถ้าคนไหนกันแน่ที่เคยได้สัมผัสผลงานหนังเขย่าขวัญของ แซม ไรมี จะสามารถซับได้อย่างดีเยี่ยมว่าเขาจับจับเอาเสน่ห์ที่ตรงนั้นเข้ามารวมเป็นหนังมาร์เวลด้วย กลิ่นจากหนัง Evil Dead โชยมา ความน่ากลัวแบบ Drag Me to Hell ก็มีให้มองเห็น ด้วยส่วนประกอบที่พูดถึงสายเวทย์แล้วก็มนตร์ต่างๆที่เอามาเป็นแกนหลักในหนังหัวข้อนี้ สามารถบังคับแนวทางความเป็นแอคชั่นกับความเขย่าขวัญเข้าเอาไว้ร่วมกันออกจะกลมกล่อมละมุนละไม
เรื่องฝันเฟื่องของอุซางิน้อย เป็นการได้มีพระราชโอรสซักคน มารัก แล้วก็เห็นด้วยคุณในฐานะหญิงที่โตแล้ว ซึ่งคุณเคยมีความคิดว่ามาโมรุในเส้นจักรวาลอดีตกาล จะเป็นพระราชโอรสของคุณได้ แม้กระนั้นท้ายที่สุด คุณก็จำเป็นต้องสารภาพเรื่องจริงว่า มันไม่มีทางเป็นไปได้ มาโมรุเป็นบิดาในอนาคตของคุณ รวมทั้งสิ่งที่คุณจะต้องทำเป็น ปฏิบัติภารกิจเจ้าฟ้าหญิงผู้รักษาแสงเดือนต่อจากเซเลอร์มูนให้เหมาะสมที่สุด รวมทั้งโน่นถึงจะนำคุณไปพบกับพระราชโอรส เป็นที่ยอมรับความเป็นตัวคุณได้จริงๆ
ตามวิถีที่คนฝึกตน เหล่านินจากลายประเภททั้งยังสี่ที่สำนักใต้ท่อที่มีไว้ระบายน้ำแกนกลางกรุงนิวยอร์คได้ทำความรู้จักและก็ ‘ลำพองใจ’ ผู้ชมทั้งยังรุ่นก่อนแบบใหม่ไปเต็ม ทั้งๆที่เป็นแฟนจำพวกตั้งแต่ยุคเกือบจะยี่สิบปีที่ผ่านมา free to play movie หรือพึ่งได้ทราบจะกันโอกาสนี้จากภาพยนตร์เรื่อง Teenage Mutant Ninja Turtles ก็จะรักเจ้าเต่านินจาทั้งยังสี่ได้ง่ายๆ
รีวิวหนัง Along for the Ride ลมรักคืนหน้าร้อน
รักวัยทีนน้ำเสียเคล้าซัมเมอร์ ถึงเวลามาดื่มด่ำกับความรักที่น่าค้นหาอีกรอบ กับหนังโรแมนติกที่จับเอานิยายโรแมนซ์มีชื่อเสียงมาสร้างเป็นฉบับไลฟ์แอคชั่นใน “Along for the Ride ลมรักคืนหน้าร้อน” ที่แม้ว่าจะมากับสูตรสำเร็จน้ำเสียที่กลิ่นแจ้งชัด แม้กระนั้นในความจำเจกลุ่มนี้ปรากฏว่าหนังประเด็นนี้สามารถถ่ายทอดออกมาได้ในรสที่กลมกล่อมละมุนละไม เป็นหนังรักย่อยง่าย ถึงแม้รสออกมาจากฝาดไปสักนิดสักหน่อยก็ตาม
หนังแอ็คชั่นทุ่มทุนผลิตจากผู้กำกับคนใหม่ โจนาธาน ลีเบสแมน ที่สร้างผลงานมันๆอย่าง The Texas Chainsaw Massacre – The Beginning (2006) ที่ได้โปรดิวเซอร์มืออาชีพด้านการปะทุเทือกเขา เผากระต๊อบที่ฮอลลีวู้ดอย่าง ไมเคิล เบย์ ผู้กำกับหนังมหากาพย์หุ่นยักษ์กระหน่ำโลกทรานส์ฟอร์มเมอร์ ทำให้ Teenage Mutant Ninja Turtles (TMNT) มีกลิ่นบู๊แอ๊คชั่น สนุกหนำใจประสมประสานอารมณ์ยียวนกวนๆฮาๆประสาวัยรุ่นนินจาเต่า ที่ผู้กำกับผสานทุกองค์ประกอบได้อย่างพอดี
และก็ที่จะต้องบอกกันตรงๆเลยว่า การที่จะมาดูหนัง Doctor Strange in the Multiverse of Madness หัวข้อนี้นั้น คุณอาจต้องมีเบื้องต้นสำหรับในการมองซีรีส์มาร์เวลมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น “WandaVision” หรือ “What If…” ที่จะเป็นองค์ประกอบที่จะมาช่วยเติมเต็มแล้วก็ขยายความรู้เรื่องในสิ่งที่หนังประเด็นนี้เล่าได้มากเพิ่มขึ้น แต่ว่าถ้าว่าคนใดยังไม่เคยมองซีรีส์พวกนี้มาก่อน ก็ใช่ว่าจะมองไม่รู้เรื่องอะไร ก็พอได้เข้าใจบ้าง แม้กระนั้นก็น่าจะเป็นจุดที่จะสะกิดต่อมให้ตามมามองย้อนไปแน่ๆ
มาถึงทางด้านการแสดงและก็นักแสดงต่างๆใน Doctor Strange in the Multiverse of Madness กันบ้าง บอกเลยว่ามีเซอร์ไพรส์ซ่อนอยู่พอสมควรเลยจ๊า แต่ว่าจะไม่สปอยล์ใดๆก็ตามให้ไปค้นหาคำตอบในหนังกันเอาไว้ “เบเนดิกต์ คัมเบอร์กางตช์” ก็ยังคงรับหน้าที่เป็นแพทย์แปลกได้ทรงเสน่ห์อีกเหมือนปกติ เขายังคงแบกรับติดอยู่แรกเตอร์และก็สร้างมิติให้กับผู้แสดงนี้ได้อย่างน่าทึ่ง อย่างกับว่านี่เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของชีวิตเขาไปเสียแล้ว
โดยรวม TMNT สามารถเล่าเซทอัพได้อย่างแจ้งชัดชัดทำให้คนที่ไม่รู้จักจะนินจาเต่ามาก่อน หรือรู้จักอยู่แล้วได้ทำความรู้จักที่ไปที่มาของนินจาเต่าอีกทั้งสี่ไปพร้อมเพียงกันกับการฉากเปิดเรื่อง ซึ่งในที่นี้จะไม่ขอให้รายละเอียดตามใจ แต่ว่าเป็นอะไรที่รู้เรื่องแล้วก็บันเทิงใจไปกับตัวภาพยนตร์ได้อย่างไม่ยากเย็น กลิ่นของหนังแอ็คชั่นซุปเปอร์วีรบุรุษ ผสมมุกตลกขบขันที่ยียวนในอารมณ์เหมาะสม
พร้อมกับงานดีไซน์งานสร้างที่ได้กลิ่นอายของมหานครนิวยอร์กอีกทั้งผู้คนนานาประการ อาคารสูงเสียดฟ้า อีกทั้งระบบรถไฟใต้ดินรวมทั้งท่อสำหรับเพื่อระบายน้ำชุลมุนสะท้อนตัวตนของมหานครนิวยอร์กได้ดีเยี่ยม ฉากแอ็กชั่นที่ดีไซน์มาอย่างบู๊ระห่ำสาแก่ใจ ทั้งยังประดิษฐ์รวมทั้งสะกดผู้ชมได้อย่างอยู่มือ! สรุปโดยรวมแล้ว TMNT เป็นภาพยนตร์ซุปเปอร์วีรบุรุษ รสบู๊แอ็คชั่นบันเทิงใจยียวนกวนฮาเคล้าผสมกันได้อย่างกลมกล่อมละมุนละไมเรื่องหนึ่งอย่างยิ่งจริงๆ
มาโมรุที่คิดว่าตนเองเป็นตัวถ่วงมาตลอด ความมุ่งหวังของการเป็นเพศชายที่เพอร์เฟ็ค แล้วก็เป็นคู่รักของอุซางิ เด็กหญิงที่ถือครองพลังอันอย่างใหญ่โต แต่ว่าตัวเขากลับไม่มีพลัง และะยังมาล้มป่วยอีก แล้วก็การที่เขาไม่สามารถที่จะเป็นไปได้อย่างเป้าหมาย ทำให้มาโมรุเริ่มที่จะกันอุซางิออกไป เนื่องจากไม่อยากที่จะให้คุณกังวลใจ และก็มีความรู้สึกว่าเขาเป็นภาระหน้าที่ ในช่วงเวลาที่อุซางิ ที่ไม่ต้องการที่จะอยากอะไรไปกว่าคนคนนึงที่พร้อมจะอยู่เคียงคู่คุณเสมอ ซึ่งตัวคุณเอง ที่ยังไม่พร้อมจะเป็นผู้ใหญ่มากสักเท่าไรนัก ก็จำเป็นต้องรอมีสติตนเองไม่ให้กลับไปงอแง แล้วก็จัดแจงเรื่องทุกๆอย่างอย่างคนแก่เยอะขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ยังไม่ตายหลักยืนให้กับอุซางิน้อย รวมทั้งมาโมรุ
เพราะเหตุว่าเป็นเพศเมียเพศผู้เดียว มาโกะก็เลยเป็นองค์ประกอบอันพอดิบพอดีของหญิงที่ประสงค์ความรักจากใครซักคนมาดูแล แต่ก็จำเป็นที่จะต้องเข้มแข็งแล้วก็ดูแลตัวเองให้ได้ เหมือนสายฟ้าแล้วก็ต้นไม้ดอกไม้รวมกัน และความฝันของคุณ เป็นเพียงอยากได้อยู่อย่างยั่งยืนด้วยตัวของตัวเองในร้านดอกไม้เล็กๆของตน ซึ่งโน่นเป็นความทรหดอดทนที่คุณต้องการจะได้ซักเสี้ยวหนึ่งของคุณฮารุกะมาไว้กับตัว
ซึ่งมันตรงกับความฝันของฮอกอาย ที่ก็ต้องการจะมีร้านขายของเล็กๆเป็นของตัวเองเหมือนกัน แล้วหลังจากนั้นก็ทั้งคู่ก็ถูกโน้มน้าวด้วยเรมเรส ที่ต้องการให้ยอมละทิ้งความฝันนั้นออกมาจากหน้าที่ ฮอกอายจำเป็นต้องละเลยความฝันเพื่อเดดมูน ส่วนมาโกโตะ ก็จำเป็นจะต้องละทิ้งมันให้กับการเป็นอัศวินเซเลอร์ แต่จริงๆแล้วมันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเลือก มนุษย์เราสามารถทำหน้าที่ของตัวเองแล้วก็ความฝันไปพร้อมเพียงกันได้เช่นกัน
แน่นอนว่า American Underdog ก็เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จสไตล์หนังประวัติความเป็นมาอเมริกันขาๆที่โชยกลิ่นมากระจายตลอดทั้งเรื่อง หนังแทบไม่มีอะไรที่หวือหวาอะไรออกมาจากในทุกองค์ประกอบ การเล่าเรื่องก็ถือว่าเรียบง่ายและไม่ได้กล่าวร้ายเด่นอะไร แต่ได้ใช้ความทรงอำนาจในเรื่องราวของหนังนั้นเป็นอย่างยิ่งขับขยับและเกื้อหนุนในสามารถเกื้อหนุนตัวหนังไปได้ค่อนจะอิ่มเอมตลอดทั้งเรื่องด้วยดี
สิ่งที่เด่นอย่างเห็นได้ชัดที่สุดจาก Sin City มาจนกระทั่ง Sin City: A Dame to Kill For ย่อมหนีไม่พ้นสไตล์ภาพอันเป็นลักษณะพิเศษแตกต่างจากหนังธรรมดา ภาพขาวดำคอนทราสต์จัดจ้านแต้มบางจุดเป็นสีสันแสบตาเหมือนกับเป็นภาพที่หลุดมาจากการ์ตูนคอมไม่ก ที่ถูกทำให้ขยับเขยื้อนผ่านวางแบบช็อตที่ใกล้เคียงไปกับการเคลื่อนไหวแบบคอมไม่กด้วยแบบเดียวกัน ทำให้เมื่อล่วงมากไม่น้อยเลยทีเดียวว่าแทบจะทศวรรษนับจากที่ได้สร้างการเกิดฮือฮาเยี่ยมในหนังคัลท์ขึ้นแท่น หนังอย่าง Sin City ถูกจำในด้านสไตล์ภาพมากกว่าเนื้อหาของตัวหนังเองด้วยไป
เนื้อหาทั้งสองภาคของหนัง เกี่ยวกับกลุ่มของผู้คนดิบในเมืองบาปที่เหล่านักแสดงต่างมีพบเห็นโชคชะตาที่เต็มไปด้วยความโหดร้าย ความรุนแรง ความหลงใหล ความรัก การสิ้นไป การแก้แค้น ความเป็นความตาย หนังผูกโยงหน้าที่ดาราต่างๆเข้าด้วยกันโดยขับย้ำจิตใจอันดำมิดหมีวิปริตของตัวละครพวกนั้นออกมาอย่างเสียดเย้ย
ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นร่วมกันของสองผู้กำกับ Frank Miller และก็ Robert Rodriguez โดยรายแรกเป็นนักกวีคอมไม่กชื่อก้องที่เป็นเจ้าของผลงาน Sin City เวอร์ชั่นคอมไม่ก โดยทั้งสองตกลงปลงใจที่จะบางทีอาจเรื่องราวในคอมไม่กไว้ให้บริบูรณ์ที่สุดในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ นี่อาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สไตล์ภาพแบบคอมไม่กกลายเป็นหลอดเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงหนังทั้งเรื่องไว้
เมื่อจำเป็นที่จะต้องแบกภาระการเป็นหัวหน้าอัศวิน การเปลี่ยนร่างไม่ได้ ก็เลยแปลงเป็นสิ่งที่คุณเจ็บ และรู้สึกเหมือนว่าตัวเองจะไม่สามารถปฏิบัติภารกิจนั้นได้อีกแล้ว ยิ่งมาเจอเพื่อนๆพูดถึงพี่ๆอัศวินรอบนอกที่ไม่อยู่อีกแล้ว ก็ยิ่งทำให้มีความรู้สึกว่าตัวคุณเองไม่สามารถเป็นหัวหน้าก้าวหน้าอีกต่อไป ไม่นะก็เลยต้องการจะหนีออกไปจากหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบที่คุณอุตส่าห์ทำนี้มาก่อนทุกคน ไปพบสิ่งที่คุณก็ต้องการจะทำมาตั้งนานแล้วคือการออดิชั่นเป็นไอดอล แม้กระนั้นเมื่ออมาชอนเนควาเต็ดไม่เหลือลูกน้องในเมือแล้ว
รีวิว Skater Girl หนังสร้างกำลังใจ
เมื่อสเก็ตบอร์ดให้อะไรกว่าที่คิด ไม่กี่วันที่ผ่านมามีข้อมูลเรื่องการจับผู้ประกอบธุรกิจพ่อค้าที่ขายสเก็ตบอร์ดออนไลน์ ตลอดมาจาก ตามราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศให้ สเก็ตบอร์ด โรลเลอร์สเก็ต เป็นผลิตภัณฑ์ควบคุม ตาม พ.ร.บ.ปกป้องลูกค้า พ.ศ.2522 แม้กระนั้นเนื่องจากพ่อค้าคนดังกล่าว นำสินค้ามาขายโดยไม่มีการเขียนทะเบียนขอรวมถึงติดฉลากให้ถูก จนกระทั่งกลายเป็นดราม่าในเครือข่ายสังคมใหญ่มหึมา
แม้กระนั้น Sin City: A Dame to Kill For ก็ยังมีความน่าดึงดูดใจเมื่อพิจารณาถึงความพิเศษแตกต่างของสไตล์หนัง free to play movie เมื่อเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆสำหรับคนที่เคยมองดู Sin City และยังได้ติดตามเรื่องราวของตัวละครหลักที่น่าสนใจหลายๆตัวที่ตลอดมาจากภาคแรก และก็เสน่ห์เริ่มต้นของตัวหนังที่ยังพอเพียงทำให้หายคิดถึงอยู่บ้างแม้ว่าบางครั้งก็อาจจะไม่ได้สุดกำลังมากสักเท่าไรนัก
และก็คนที่ไม่เคยมองดู Sin City มาก่อนก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเพื่อการได้เปิดรับหนังที่สามารถพูดได้ว่ามีสไตล์ภาพแล้วหลังจากนั้นก็การเล่าอันมีเอกลักษณ์สูงที่สุดเรื่องหนึ่ง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าท้ายที่สุดแล้วเสน่ห์และก็ความพิเศษของหนังสไตล์จัดเรื่องนี้ ก็ยังคงไม่ใช่สิ่งที่พบเจอได้ง่ายนักในตลาดหนังที่นับวันยิ่งมีแต่ว่าความเล่าซ้ำซ้ำๆซากๆจนกระทั่งแทบแยกไม่ออกว่ามันต่างกันเช่นไร
ก็เลยใช้การออดิชั่นนี้เป็นตัวชี้เป็นชี้ตายใส่คนที่ใช้การไม่ได้ที่สุดในกลุ่ม แม้กระนั้นเมื่อไม่นะเจอกับการออดิชั่นที่ใช้เด็กเป็นพนัน ความรู้สึกของการเป็นคนมีความรับผิดชอบ การต้องเป็นอัศวิน ก็เลยกลับขึ้นมา ถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีพลังเลยก็ตาม ก่อนจะคุณจะศึกษาค้นพบว่าการที่คุณไม่มีพลัง เป็นเนื่องมาจากคู่ซี้ของคุณไม่พร้อม เป็นเพราะเหตุว่าคุณไม่เคยปล่อยความไม่ค่อยสบายใจ หรือความรู้สึกให้เพื่อนๆได้รู้เลย
ถึงแม้คำว่า “ภาพสวย” เป็นคำที่เราใช้นิยามหนังบางเรื่อง เหมือนกับที่ Sin City ถูกจำในด้านงานภาพที่เด่นเกินองค์ประกอบอื่นๆของหนัง ผิวเผินเปรียบเสมือนเป็นคำกล่าวยกย่อง หากแม้ก็ดูอย่างกับว่าไม่ดีต่อค่าในด้านอื่นๆของตัวหนังไม่น้อย เพราะว่าความน่าดึงดูดใจด้านเรื่องราวที่ขับเน้นด้านมืดของผู้แสดงผ่านพล็อตที่มีส่วนประกอบน่าสนใจ มันใส่รับแล้วไปได้เวิร์คเยอะมากๆกับสไตล์ภาพขาวดำจัดจ้าน หมองมืด อาบปกคลุมด้วยทิวภาพซอกมุมอับอันเน่าเฟะของเมืองคนบาปที่ฝนตกตลอดเวลา
ความรุนแรงกับการสาดกระเด็นของเลือดแดงฉานตัดกับภาพขาวดำจัด ดาราบริสุทธิ์ไร้เดียงสาคนผิดกลืนเข้ามาเป็นพลเมืองเมืองคนบาป ที่กระปรี้กระเปร่าแจ่มใสดังเช่นว่ามนุษย์ปกติตัดกับดาราย้อมขาวดำอื่นๆกลุ่มนี้เป็นการผสานกันกลมกลืนของเนื้อหาแล้วก็สไตล์ภาพที่แยกจากกันไม่ได้ ทั้งขยับขยายขอบเขตความเป็นไปได้ของภาพยนตร์และก็ประสบการณ์ของผู้ชมให้กว้างขึ้นไปอีกด้วย
แม้ว่าก็นับได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอยู่ด้วยเหมือนกันเมื่อ Sin City: A Dame to Kill For ด้ามจับเอาองค์ประกอบทั้งนั้นของความดีเลิศที่เคยทำเอาไว้ในภาคแรกมาใช้ กลับมีคุณภาพที่ลดหลั่นลงไปพอดี ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่ถูกลดเสน่ห์ลงไป บทที่ผูกเรื่องราวได้ไม่กลมกล่อมละมุนละไมนัก รวมถึงงานภาพที่นอกเหนือจากที่จะไม่มีอะไรแปลกใหม่แล้วยังมีหลายๆซีนที่ทำเป็นธรรมดาซ้ำจากจำเจอย่างมาก
ทั้งการที่ยังผูกเนื้อหานิดหน่อยอ้างอิงกับภาคแรกแล้วหลังจากนั้นก็หนังก็ไม่ได้รับประกันความหลังมากพอสำหรับคนที่ไม่เคยดูภาคแรกก็ดูเหมือนจะเป็นปัญหาด้ารอรรถยนต์รสอยู่ไม่น้อย การปีนไปสู่ไคล์แมกซ์ของแต่ล่ะดาราก็ดูอย่างกับว่าคลายเงื่อนไปไม่สุด กล่าวโดยรวมแล้วมันช่างให้ความรู้ความเข้าใจสึกที่ “ไม่อิ่ม” เอาเสียเลยด้านหลังมองดูจบ พาเอามนต์ขลังความคัลท์ที่เคยทำไว้มัวไปไม่น้อย
“สตีเฟ่น คิง” นักเขียนนวนิยายระดับประเทศ บุคคลที่เราถูกใจได้แลเห็นชื่อของเขา ถูกใช้เป็นเครดิตบนภาพยนตร์ทั้งหลาย โน่นก็เพราะผลงานของเขานั้น ได้ถูกรังสรรค์ออกมาในรูปแบบของแผ่นฟิล์มมาแล้วมากกว่า 30 เรื่อง! แล้วก็ The Dark Tower นี้เอง เป็นเลิศในผลงานที่สร้างชื่อมากที่สุดชิ้นหนึ่งของเขา ที่ในช่วงเวลานี้ก็ได้แปลงเป็นฉบับภาพยนตร์เป็นที่เป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมได้นักแสดงมากความรู้ความเข้าใจทั้งสองอย่าง Idris Elba รวมทั้ง Matthew McConaughey มารับหน้าที่เขยื้อนให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยความครื้นเครงระดับบลอกบัสเตอร์!
หลังจากจบการสงครามมุเก็น เหล่าอัศวินวงนอกที่ดำรงชีพอยู่กับภาระหน้าที่อัศวินมาตลอด เนื่องจากว่าทำความฝันของตัวเองเสร็จกันหมดแล้ว ทั้งการเป็นนักแข่งรถ F1 การเป็นนักไวโอลิน หรือการเป็นนักวิทยาศาสตร์ หรือการมาสร้างครอบครัวด้วยกันอย่างคนรักกัน ก็ทำสำเร็จหมดแล้ว การเสนอคำถามเกี่ยวกับความฝันก็เลยเกิดเหตุยากของอีกทั้งสามคนเยอะมาก การดูแลโฮตารุก็เลยเป็นสิ่งเดียวที่ยึดโยงทั้งสามไว้
และแปลงกายไม่ได้ ยิ่งเป็นการรับประกันว่าหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบได้หมดลงแล้ว แต่โฮตารุ ที่ได้รับการปลุกให้ตื่นโดยอัศวินข้างในตัวคุณ คุณได้ชี้แนะทั้งสามคนที่อุปถัมภ์ค้ำชูคุณมาว่า ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่อย่างสันโดษอีกแล้ว หากแม้ทั้งยังสี่ได้เคยผูกสัมพันธ์ไว้กับบุคคลอื่นเราก็มีสิทธิที่จะเลือกทางของตัวเอง และเริ่มชะตาใหม่ กลายเป็นอัศวินที่ไปจับกลุ่มต่อสู้กับคนอื่นได้ แม้ว่าจะเป็นการเลือกที่แตกต่างจากก่อนหน้านี้ก็ตาม ขอเพียงแต่ความห้าวหาญที่จะแปลงเท่านั้นเอง
รีวิวหนังโรงThose Who Wish Me Dead
เค้าเหล่านั้น ต้องการที่จะให้ฉันตาย เข้าฉายในอเมริกาตั้งแต่ตอนเดือนพฤษภาคม แม้ว่าจะยังเป็นระยะๆที่โรงภาพยนต์ในอเมริกายังไม่คึกคักนัก แม้ว่าเรื่องราวในอเมริกานั้นแตกต่างในประเทศไทยราวฟ้ากับเหว เมื่ออเมริกาผู้คนได้ฉีดยาสมรรถนะและจากนั้นก็ภาครัฐสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจให้กับพลเมืองเพื่อกลับไปใช้วิถีชีวิตแบบเดิมอีกครั้ง
ย้อนอดีตกลับไป ความหลงละเมอของราชินีดวงจันทร์ เป็นการคาดการณ์หวังว่าเซเรนิตี้ ลูกผู้หญิงที่พึ่งพิงจะเกิดใหม่ จะกลายเป็นแสงสว่างใหม่ของอาณาจักรดวงจันทร์ โดยหลงลืมเรื่องจริงไปว่า คุณไม่ใช่ผู้ดูแลที่แท้จริงของดวงจันทร์มาแต่แรกเริ่ม ดวงจันทร์มีทั้งยังด้านสว่างรวมทั้งด้านมืด คุณจึงควรรับว่าอีกด้านหนึ่งของดวงจันทร์ ยังมีราชินีอีกคนที่เป็นคู่วัฏจักรของคุณ แม้กระนั้นถึงแม้นั่นเกิดเรื่องจริง ก็ไม่ได้แสดงว่าราชินีดวงจันทร์สีขาว จำเป็นที่จะต้องยอมโอบรับความมืดเข้ามา เราทำเป็นแค่เพียงรักษาความส่องสว่างของดวงดาวในใจเราเอาไว้ เท่านี้ความมืดมนก็ไม่สามารถที่จะผ่านกระจกมาได้แล้ว
“แซคารี ลีวาย” ที่มาแสดงบทบาทเป็นตำนานตัวจริงของหนังประเด็นนี้ ก็จัดว่าแบกรับหน้าที่รับผิดชอบได้ค่อนจะดี เขาสามารถทะนุถนอมหนังทั้งเรื่องนี้เอาไว้คนเดียวได้อย่างไม่หนักหนาอะไร ถึงแม้ว่าการแสดงของเขาก็อยู่ในระดับมาตรฐานธรรมดา เขาให้การแสดงที่ดีอย่างถูกอกถูกใจ แม้กระนั้นไม่มีอะไรที่เด่นออกมาเป็นพิเศษ เพราะว่าบทราบเรียบของหนังไม่ได้ส่งให้ไปได้ถึงจุดนั้น เหมือนกันกับ “แอนท้องนา แพควิน” ที่ถือว่าแปลงโฉมตัวเองให้ดังค้างแรกเตอร์ตัวจริงอย่างใกล้เคียง ไว้ใจกับการแสดงของคุณผู้นี้ได้เลย คู่นี้ส่งบทกันเทียวไปเทียวมาได้อย่างพอดิบพอดีอีกทั้งเรื่อง
แต่ว่านอกเหนือจากการได้มาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มแล้วนั้น นิยายต้นฉบับของ The Dark Tower เอง ก็มีเรื่องราวล้นหลามรอบข้างที่น่าสนใจไม่แพ้ตัวภาพยนตร์เลย และด้วยเหตุผลดังกล่าว Thaiware ก็เลยต้องการจะขอนำเสนอ “5 สิ่งที่น่าสนใจของภาพยนตร์ The Dark Tower” หากแม้จะมีอะไรบ้างนั้น ชวนรับรู้ไปพร้อมๆในบทความ (และก็วิดีโอ) นี้ได้เลยขอรับ!
การจะทำลายกระจกที่ราชินีความมืดมน เป็นการแต่งแสงสว่างของจิตใจคนทั้งระบบสุริยะขึ้นมาใหม่ แล้วหลังจากนั้นก็กำจัดไล่ความมืดดำที่บังแสงตะวันออกไป ซึ่งคนเดียวที่ยังไม่มีผลึกอันส่องสว่าง ก็คือมาโมรุนั่นเอง และก็เมื่อมาโมรุสามารถปลดผลึกโกลเดนคริสตัลออกมาได้เมื่อใด ก็จะเป็นตอนจบของความหลงละเมอ และกลับไปสู่โลกความเป็นจริงที่ส่องสว่างด้วยแสงอาทิตย์ มาโมรุก็จะแปลงเป็นราชาที่ได้รับการคุ้มครองป้องกันจากดวงอาทิตย์ และก็ความมืดมนก็จะสลายหายไป
แม้ว่าจะเป็นหนังดราม่ากีฬา ถึงแม้องค์ประกอบหลักของหนังเรื่องนี้เป็นการเผยชีวิตมากกว่า โดยมีส่วนของกีฬาเข้ามาเป็นเสริม เราจะได้แลเห็นมุมมองการใช้ชีวิตของผู้ชายธรรมดาอย่าง เคิร์ต วอร์นอร์ wow slot 008 นับจากเขาเอาจริงเอาจังพยายามที่จะแปลงเป็นนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลให้ได้ มองเห็นช่วงชีวิตที่ทุกข์เข็ญรวมถึงท้าทาย จุดแปลงและการตัดสินใจต่างๆของเขา