บ้านผลบอล 7m live score
บ้านผลบอล 7m live score แมนฯ ซิตี้ ประกาศตั้งแต่ที่ผ่านมาแล้วว่าจะทำภาพปั้นของ อเกวโร่ เอาไว้ เอติฮัด สเตเดี้ยม เพื่อจะเป็นเกียรติให้กับอดีตหัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ที่เคยทำประตูได้เป็นกอนเป็นกำและพาทีมบรรลุความสำเร็จอย่างล้นหลาม ซึ่งมันก็มีการเปิดตัวภาพปั้นที่ว่าไปเมื่อวันวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม ก่อนหน้านี้
แม้กระนั้น แฟนบอลนิดหน่อยมองว่าชมแล้วมันราวกับ โครส มากยิ่งกว่า ตัวอย่างเช่นใจความที่กล่าวว่า “แมนฯ ซิตี้ น่ายกย่องจริงๆ ที่ทำรูปปั้นเพื่อให้เกียรติ โทนี่ โครส ในการที่เขาช่วยเขี่ยหมู่เขาตกรอบ บ้าน ผลบอล 7m live score ยูซีแอล ฤดูกาลนี้” และ “เพราะอะไร อเกวโร่ ถึงยืนอยู่หน้าภาพปั้น โทนี่ โครสกัน” ฯลฯภายหลังเห็นได้ชัดคนพูดถึงเขาเยอะพอตัว โครส
จึงร่วมวงล้อเลียนรูปปั้นนี้ด้วยการรีทวีตข้อความที่กล่าวว่า “เซร์คิโอ อยู่ที่นี่แล้ว” ด้วยการพิมพ์ว่า “มั่นใจนะ ?”
เพื่อที่จะสื่อว่ามั่นใจได้ยังไงว่านั่นเป็นรูปปั้นของ อเกวโร่ คือมันก็มีทั้งคนที่เข้ามาล้อเลียนภาพปั้นร่วมกับเขา
เป็นต้นว่าเนื้อความที่พูดว่า “กะแล้วว่าเขาจำเป็นต้องรีทวีตประเด็นนี้” และคนที่ตำหนิเขาโทษฐานที่มาล้อเลียนภาพปั้น อเกวโร่ อาทิเช่น “แกไร้ดีพอที่จะอยู่รอดใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หรอกโว้ย” และ “หมกมุ่นกับกลุ่มของเราเหรอ”
พบหน้าอีกครั้ง! เกร็ดการดวลกันใน เอฟเอ คัพ ของ ลิเวอร์พูล vs เชลซี
การต่อสู้ที่สนามเวมบลีย์ในวันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคมนี้ จะเป็นการวินิจฉัยว่า ลิเวอร์พูล ยังจะมีโอกาส 4 แชมป์ภายในซีซั่นเดียว หรือเรื่องที่ว่า เชลซี จะมีแดูป์ติดมือในฤชมกาลนี้รีเปล่า ภายหลังทั้งคู่จำเป็นต้องโคจรมาเหน้าจอกันในเกม เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ
แน่นอนว่านี่ถือเป็นการรีแมตช์ของทั้งคู่ ต่อมาเมื่อขณะเดือนก.พ.ก่อนหน้าที่ผ่านมา บ้านผลบอล 7m live score ลิเวอร์พูล เพิ่งเอาชนะ เชลซี ในเวลาดวลจุดโทษที่ช้านานได้จนทำให้หมวดเขาได้แชมป์ คาราบาว คัพ ไปครอง
แต่นอกเหนือจากการชิงถ้วยโดยตรงกันอีกรอบในซีซั่นนี้นั้น มันยังมีเกร็ดจำเพาะในรายการ เอฟเอ คัพ ตอนทั้ง 2 กลุ่มที่น่าดึงดูดเช่นกัน
– จำนวนครั้งที่เคยดวลกัน
ในที่มาที่ไปศาสตร์ของ เอฟเอ คัพ ลิเวอร์พูล กับ เชลซี เคยดวลกันมาแล้ว 1หนึ่งครั้ง โดยหนแรกเกิดขึ้นเมื่อซีซั่น 1931-32 ซึ่งเป็นการเหน้าจอกันในรอบก่อนรองชนะเลิศ
โดยวันนั้นเตะกันที่ แอนฟิลด์ แม้กระนั้น เชลซี ก็ยังบุกไปควักชัยชนะมาจากที่นั่นได้ 2-0 ก่อนที่จะไปหน้าจอดป้ายที่รอบรองชนะเลิศด้วยความสามารถของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
ตอนที่หากนับเฉพาะนัดชิงชนะเลิศแล้วล่ะก็ บ้านผลบอล 7m live score นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่หมวดเขาจะต้องเปิดศึกกันเพื่อชิงแดูป์รายการฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดของโลกด้วย ด้วยเหตุว่าทั้ง 2 ทีมเคยแข่งขันกันในนัดชิงดำของซีซั่น 2011-12 ซึ่งหนนั้น
เชลซี เอาชนะไป 2-1 จากประตูของ รามิเรส กับ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ในนาทีที่ 11 กับ 52 ตามชั้นเชิง ครั้นว่า ลิเวอร์พูล จะตีตื้นได้จาก แอนดี้ แคร์โรลล์ ในนาทีที่ 64 แต่ก็ไล่ไม่ทัน
– เชลซี เฉือน ลิเวอร์พูล
จากการเจอกันในถ้วยนี้ เชลซี เป็นฝ่ายกำชัยได้มากมายยิ่งกว่า โดยหมู่เขาชนะได้ 7 หน ส่วนฝั่ง ลิเวอร์พูล เคยได้เฮ 5 หน ใช่แล้ว คู่นี้ไม่เคยเสมอกันจนควรต้องวัดกันต่อในตอนต่อระหว่างพิเศษ หรือจำเป็นต้องเล่นนัดรีเพลย์กันแม้กระทั้ง1 ครั้ง โดยถ้าวัดแค่เวลา 2 เกมที่ผ่านมานั้น เชลซี เป็นฝ่ายชนะได้ทั้งปวง
จากเรื่องดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว ทำให้ในตอนนี้ “สิงโตน้ำเงินคราม” มีโอกาสทาบสถิติการชนะ ลิเวอร์พูล ในถ้วยนี้ได้สื่อสารกันมากที่สุดด้วย หลังจากพวกเขาเคยชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ในรอบ 3 ของฤชมกาล 1965-66, พิชิต “หงส์แดง” 4-2 ในรอบเดียวกันของซีซั่น 1977-78 และการคว้าชัยไป 2-0 ในรอบ 5 ของฤดูกาล 1981-82
– ประตูกระจาย
39 ลูก คือจำนวนประตูที่กำเนิดขึ้นในเกม เอฟเอ คัพ ของทั้ง 2 กลุ่มตลอดตอน 11 เกมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา โดยเป็นของฝั่ง เชลซี ไปทั้งสิ้น 23 ลูก และของ ลิเวอร์พูล 16 ประตู ซึ่งนักเตะ เชลซี ที่ทำประตูในเกม เอฟเอ คัพ ระหว่างทั้งสองได้สูงที่สุดก็คือ บ็อบบี้ แทมบลิ้ง ที่ทำไป 3 ลูก
ส่วนของฝั่ง ลิเวอร์พูล ได้แก่ โรเจอร์ ฮันท์ ที่ทำได้ 2 ประตู และก็อย่างที่กล่าวไปว่าคู่นี้ไม่เคยเจ๊ากันในถ้วยนี้มาก่อน นั่นก็หมายความว่ามันมีประตูเกิดขึ้นทุกนัดนั่นเอง
ทั้งนี้ เกมที่ยิงกันเบิกบานมากที่สุดในถ้วยนี้ของทั้ง 2 ทีมคือเกมรอบ 3 ของฤดูกาล 1961-62 ภายหลังจากวันนั้น ลิเวอร์พูล ขึ้นนำไปก่อน 1-0 จาก เอียน เซนต์ จอห์น ก่อนที่ แทมบลิ้ง จะตีเสมอไปให้ เชลซี ในนาทีที่ 18
แต่ข้างหลังแล้วต่อจากนั้น ลิเวอร์พูล มาได้ทีเดียว 3 ลูกรวดจาก ฮันท์, เซนต์ จอห์น และ อลัน อาคอร์ท ทว่าในตอนต่อจากนั้น เชลซี ก็มาได้ 2 ลูกจาก แทมบลิ้ง เจ้าเดิม และ แบร์รี่ บริดจ์ส ก่อนที่จะสุดท้าย ลิเวอร์พูล จะรักษาสกอร์ได้จนชนะไป 4-3
– ใบเหลือง-ใบแดง
4 หนหลังสุดที่คู่นี้เจอกันในเกม เอฟเอ คัพ มันไร้ใบแดงเกิดขึ้นแม้แต่ใบเดียว แต่ในขณะเดียวกันก็มีใบเหลืองเกิดขึ้น 14 ใบ แบ่งแยกเป็นของฝั่ง ลิเวอร์พูล 10 ใบและของ เชลซี 4 ใบ ซึ่งเกมที่มีใบเหลืองปลิวว่อนจำนวนเยอะที่สุดคือเกมรอบ 4 ของฤดูกาล 1996-97 เนื่องมาจากมีการแจกใบเหลืองไป 5 ใบร่วมกัน