ตำนาน โรนัลโด ‘El Fenomeno’ ผู้เปลี่ยนนิยามกองหน้าตัวเป้า
เมื่อพูดถึงชื่อ Ronaldo แฟนบอลรุ่นเก่าจะนึกถึงชายชาวบราซิลเจ้าของฉายา “โล้นทองคำ” หรือ “El Fenomeno” (ปรากฏการณ์) ที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการฟุตบอลด้วยพรสวรรค์และพลังที่เหนือมนุษย์ โรนัลโด หลุยส์ นาซาริโอ เดอ ลิมา ไม่ได้เป็นเพียงแค่กองหน้าที่เก่งกาจ แต่เขาคือนิยามของกองหน้าตัวเป้าคนใหม่ที่ผสมผสานความเร็ว, พละกำลัง, และเทคนิคขั้นสูงเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
การแจ้งเกิดที่สั่นสะเทือนวงการ
โรนัลโดเริ่มต้นเส้นทางอาชีพกับครูไซโร่ในบราซิล ก่อนจะย้ายไปสู่ยุโรปกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ที่นั่นเขาเริ่มฉายแววความอัจฉริยะด้วยการยิงประตูอย่างถล่มทลาย จากนั้นย้ายไป บาร์เซโลนา ในปี 1996 ด้วยค่าตัวสถิติโลก และในฤดูกาลเดียวเขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ โรนัลโดในวัย 20 ปี มีความเร็วที่ไม่มีใครตามทัน, การเลี้ยงบอลที่พาบอลติดเท้า และพละกำลังในการเบียดแย่งที่ทำให้กองหลังต้องยอมสยบ เขาซัดไปถึง 47 ประตูจากการลงเล่น 49 นัด พร้อมกับคว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกในปี 1996 และ 1997
บททดสอบที่สาหัสที่สุด: โศกนาฏกรรมอาการบาดเจ็บ
หลังย้ายไป อินเตอร์ มิลาน โรนัลโดต้องเผชิญกับบททดสอบที่โหดร้ายที่สุดในชีวิต เขาได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรงถึงสองครั้งในระยะเวลาใกล้เคียงกัน หลายคนเชื่อว่านี่คือจุดจบของอาชีพนักฟุตบอลของเขา แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ โรนัลโดใช้เวลาพักฟื้นและทำกายภาพบำบัดนานกว่า 20 เดือนเพื่อกลับมาลงสนามอีกครั้ง
เรื่องราวการกลับมาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล
ช่วงเวลาที่โลกจดจำเขาได้ดีที่สุดคือใน ฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่น Ronaldo กลับมาพร้อมกับทรงผมสุดประหลาด แต่ความสามารถของเขานั้นไม่เคยจางหายไป เขาระเบิดฟอร์มยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง และทำ 2 ประตูในนัดชิงชนะเลิศ เอาชนะเยอรมนี พาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 ได้อย่างยิ่งใหญ่พร้อมกับตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของทัวร์นาเมนต์ นี่คือการกลับมาที่ยิ่งใหญ่และน่าทึ่งที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการกีฬา
โรนัลโดย้ายไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด ในฐานะหนึ่งใน “กาลาคติกอส” (Galácticos) ก่อนจะไปจบเส้นทางอาชีพที่เอซี มิลานและกลับไปบราซิลในที่สุด แม้จะเผชิญกับอาการบาดเจ็บที่ทำให้ร่างกายไม่สมบูรณ์เหมือนเดิม แต่สถิติการทำประตูของเขาก็ยังอยู่ในระดับสูงเสมอ
เขาคือปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถมีใครเลียนแบบได้ ด้วยเทคนิคที่ผสมผสานระหว่างสไตล์แบบบราซิลเลียนกับความรวดเร็วและพละกำลังแบบยุโรป ทำให้เขากลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักฟุตบอลรุ่นหลัง และยังคงเป็นตำนานที่โลกต้องจารึกถึงความยิ่งใหญ่ของเขาตลอดไป mingelbingo