ดูหนังออนไลน์ hd พากย์ไทยเต็มเรื่อง หนังไม่กระตุก ไม่มีโฆษณา
ดูหนังออนไลน์ hd อย่างที่เกริ่นเอาไว้ที่พูดว่า Love in the Villa ก็ดังเป็นการจับเอาหนังรักประเด็นต่างๆก่อนหน้าที่ผ่านมาเอามาผสมสร้างออกมาเป็นของกินจานใหม่ มีกลิ่นความรักเลียนๆแบบ “Falling in Love” หนังดังในปี 1984 ของ เมอรีล สตรีฟ สัมพันธ์กับหนังรักยุคสมัยใหม่แบบ “Letter to Juliet” เมื่อปี 2010 ที่จังหวะอะไรต่างๆก็ค่อนข้างจะเชย แต่ว่าก็มิได้ทำให้เกิดความรู้สึกขัดข้องอะไร ประกอบกับผู้ผลิตหนังประเด็นนี้เคยทำหนังเกี่ยวอิตาเลียนทำนองนี้มาแล้วใน “When in Rome” ทำให้หนังในมือเขาประเด็นนี้ค่อนข้างจะไปได้สบายๆ
แต่ว่าภายหลังจากมองจริง ยิ่งแต่ละตอนผ่านไป ยิ่งรู้สึกตื่นตาตื่นใจและก็สรรเสริญกับความอาจหาญพรีเซ็นท์ของประเด็นนี้ แม้ว่าจะมีความอุตสาหะเสนอความมากมายเสมอภาคทางเพศแล้วก็สีผิวที่เน็ตฟลิกซ์ถูกใจแออัด ดูหนัง hd แต่ว่าก็กลืนได้เนียนตารู้สึกมีเหตุผลกว่าเรื่องอื่นๆรวมทั้งเมื่อมองจบก็กล้าบอกเลยว่านี่เป็นอีกคอนเทนต์เรือธงที่เน็ตฟลิกซ์ควรจะต่อยอดถัดไปให้ดีๆ
แต่ว่าคราวนี้ก็มีข้างที่ไม่เห็นพ้องกับข้อบังคับจดทะเบียนวีรบุรุษอย่าง Captain America เมื่อข้อคิดเห็นมีความขัดแย้ง ความมันส์ก็กำเนิดสิขอรับท่านนักอ่าน ทางฝั่งของ Ironman นำกลุ่มโดย Iron Man, War Machine, Black Panther, Vision, Black Widow, และก็ Spider Man หลายๆคนคงจะตระหนกตกใจกับชื่อท้ายที่สุด แม้กระนั้นถ้าหากผู้ใดตามข่าวสารก็จะทราบว่า Spider Man โผล่มาได้ไพเราะอะไร
โดย ‘I am Groot’ ประกอบไปด้วยแอนิเมชันขนาดสั้นปริมาณ 5 ตอน ตอนนึงความยาวไม่เกิน 5 นาที โดยแบ่งเป็นตอนๆได้ดังต่อไปนี้ ‘Groot’s First Steps’ ทีแรกๆของซีรีส์ที่เอ่ยถึงการก้าวออกจากกระถางของกรูทน้อย ด้วยความใจเร็วตามประสาวัยรุ่นเจ้ากรูทเลยใช้พลังพิเศษสำหรับเพื่อการยืดแขนงของตนเองออกไปพันกับเจ้าต้นบอนไซรวมทั้งพากันเสี่ยงภัยระเบิดเถิดเทิงด้านในพื้นที่ไม่กี่ตารางเมตร โดยรวมแอนิเมชันในตอนนี้บางทีอาจจะยังมิได้มีรายละเอียดมากเท่าไรนัก รวมทั้งหากจะว่ากันถึงความเพลิดเพลินผู้ชมบางบุคคลบางทีอาจพบว่ามันมีเรื่องมีราวราวที่น้อยไปหน่อยแม้ว่าจะขายความน่ารักน่าเอ็นดูของน้องกรูทมากเพียงใดก็ตาม
เปิด Netflix มารีทิวทัศน์ Apollo 10½:
จดหมายรักสู่วัยเด็ก แก่อวกาศที่พวกเราแหงนหน้ามอง ผลงานเรื่องปัจจุบันของริชาร์ด ลินเคลเตอร์ ผู้กำกับหนังสไตล์ Coming-Of Age ที่มีลูกล่อลูกชนไม่ธรรมดา แม้คนไหนกันแน่เคยประทับกับหนังดราม่าหวนกลับชีวิตวัยเด็กอย่าง Boyhood แล้ว Apollo 10½: A Space Age Childhood จะก่อให้คุณได้สัมผัสห้วงสมัย 60s และก็ความรุ่งเรืองทางอวกาศของอเมริกา
รวมทั้งอาจจะจำต้องออกสตาร์ทย้ำไว้อีกว่าซีรีส์นี้ส่วนดีนั้นมีมากมาย แต่ว่าก็มีข้อเสียอยู่แบบเดียวกัน อีกทั้งการเลือกผู้แสดงของบางนักแสดงที่มองไม่ค่อยเข้านัก ซีจีบางจุดยังเก็บไม่ค่อยเยี่ยมถึงแม้ภาพรวมทำเป็นดี เสน่ห์ของผู้แสดงนำบางทีอาจยังไม่กระจ่างมากมายไปเด่นตัวอื่นๆเสียมากกว่า รวมทั้งสาระสำคัญเป็นนี่ไม่ใช่ซีรีส์แนวเอาอกเอาใจตลาด แต่ว่าตอบปัญหาเฉพาะกรุ๊ปเสียมากกว่า ด้วยเหตุดังกล่าวท้ายที่สุดแล้วหากความนิยมชมชอบโดยรวมน้อยเกินไปให้พามีซีซันถัดไปก็เกิดเรื่องรู้เรื่องได้ แม้กระนั้นก็โชคร้ายอย่างมากด้วยเหมือนกัน โลกพวกเราต้องมีรสขมที่มีคุณประโยชน์กับสมองรวมทั้งหัวใจอย่างนี้ไว้ภายในวันที่เบื่อรสหวานมันบ้าง
เมื่อส่วนประกอบหลายๆอย่างมองซ้ำจากจำเจเยอะไปหมด ทุกๆอย่างก็เลยตกมาอยู่ที่ท่าทางการแสดงรวมทั้งเคมีของผู้แสดงแทน “ทอม คอปเปอร์” กับ “แคท เกรหมูแฮม” ที่มองผิวเผินพวกเขามองไม่ค่อยคงจะอินสักเท่าไหร่ แต่ว่าเสน่ห์การแสดงของพวกเขาในหนัง ช่วยขับเสน่ห์ของกันและกันออกมาได้อย่างทรงอำนาจ แม้ว่าจะออกมาในทำนองหนังรักเน่าๆของช่องฮอลล์มาร์คไปสักนิด แม้กระนั้นอินเนอร์ของพวกเขาก็ออกจะพอดีรวมทั้งมั่นใจในตัวเองก้าวหน้า
ตกลงว่าในรูปภาพรวมนั้น Love in the Villa ก็จัดได้ว่าเป็นหนังแนวพื้นเพปกติที่ไม่ได้แตกต่างจากหนังเมื่อหลายสิบปีกลาย พล็อตเชยๆเรื่องราวแสนน้ำเสีย จังหวะรวมทั้งอารมณ์แบบละคร แม้กระนั้นเปลี่ยนเป็นหนังที่รับประทานง่ายย่อยง่าย สามารถเปิดมองได้เพลิดเพลินๆแบบไม่ต้องคิดอะไรเลย มันบางครั้งอาจจะเป็นหนังที่มิได้มีอะไรให้น่าจำเลย แต่ว่าเรื่องราวของมันก็มองได้ง่ายมากรวมทั้งเอ็นหน้าจอยไปตามน้ำได้แบบที่หนังรักเฉิ่มๆสักเรื่องหนึ่ง
Apollo 10½: A Space Age Childhood เล่าชีวิตเด็กผู้ชายวัยสิบขวบอย่างแสตน (ไมโล รอ) กับครอบครัวของเขาที่ตั้งหลักปักฐานอยู่ในเมืองฮิวสตัน เมืองเท็กซัส ประเทศอเมริกา บิดาของสแตนดำเนินงานอยู่ในหน่วยงานอวกาศที่นาซ่า ซึ่งในช่วงเวลานั้นเทคโนโลยีการบินขึ้นสู่อวกาศเกิดเรื่องที่ชาติอย่างอเมริกามานะชิงชัยกับรัสเซียอย่างมากถ่วง
จะกำเนิดอะไรขึ้นถ้าเกิดหน่วยงานทุ่งนาซ่าตกลงใจนำตัวแสตนเข้ามาทำภารกิจลับที่มีชื่อว่าอะพอลโล 10½ ก่อนที่จะนักบินอวกาศอย่างนีล อาร์มสตรองจะบินขึ้นไปบนพระจันทร์จริงๆแน่ๆว่ามันบางครั้งก็อาจจะเป็นจินตนาการของแสตนที่เอาตนเองเข้าไปสวมทับกับช่วงก่อนเรื่องราวประวัติศาสตร์ ได้อย่างงดงาม
‘Groot’s Pursuit’ ขณะที่ 3 มาพร้อมความน่ากลัว ! เมื่อกรูทได้ยินเสียงแปลกๆเขาก็เลยติดตามเสียงนั้นไปทั่วยานจนกว่าได้เจอกับเซอร์ไพร์สสำหรับเวลาที่ 3 นี้ก็เพิ่มอารมณ์หนังตื่นเต้นเข้ามา แม้ว่าจะไม่มีอะไรน่าสะพรึงกลัวโผล่มาแม้กระนั้นสำหรับเด็กตัวเล็กๆๆบางทีอาจไม่เหมาะสมเยอะแค่ไหนขอรับ แต่ว่าที่เซอร์ไพร์สมากมายเป็นระบบเสียงของในขณะนี้สามารถทดลองโฮมเธียร์เตอร์ได้เลย ถือได้ว่าเป็นแอนิเมชันเรื่องหนึ่งที่ให้ความใส่ใจกับการออกแบบเสียงมากมาย
หากแม้ชื่อหนังบางครั้งอาจจะมองเป็นหนังตะลุยอวกาศทำภารกิจนอกโลก แม้กระนั้นที่จริงแล้ว Apollo 10½: A Space Age Childhood เป็นการนำผู้ชมกลับไปตรวจสอบขณะในปี 1960s ว่าเด็กๆตอนนั้นมีกิจกรรมอะไรบ้างในชีวิตบ้าง เป็นต้นว่าการขี่จักรยานเล่นบันเทิงใจตามถนน และยังรวมไปถึงสนุกสนานกับการปั่นตามรถยนต์ที่ฉีดควันกำจัดแมลง (โดยที่พวกเขามารู้เอาภายหลังว่าควันพวกนั้นก่อให้เกิดอันตราย)
ความเพลิดเพลินสำหรับการไปกดน้ำอัดลมจากตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติ (ยุคนี้ก็คงจะได้รับความนิยมชนิดเดียวกันกับสั่งกาแฟ TAO BIN) การนั่งรถปิคอัพแบบฮาเฮกับเพื่อนพ้องๆทีวีหน้าจอขาวดำที่จะต้องอาศัยการรับรูปภาพจากเสาอากาศ ขณะมองละครข้างหลังข่าวสารกับครอบครัว โดยที่พี่สาวจะดูกรยการนึง ส่วนน้องชายก็จะมองอีกรายการ ก็เลยกำเนิดการเกิดแย่งจอทีวีกัน และก็สุดท้ายเป็นการนอนกันค้างทีวีจนกระทั่งสถานีหยุดกระจายเสียง แล้วก็บิดามารดาจำเป็นต้องอุ้มลูกกลับไปยังเตียง
‘Groot Takes a Bath’ เวลาที่ 4 พาพวกเราไปร่วมอาบน้ำกับน้องกรูทรวมทั้งเป็นปกติที่น้องจะต้องการหล่อก็เลยเอาโคลนมาแทนเจลเอาใบไม้จัดแต่งทรงผมเพื่อลุคต้องใจแต่ว่าก็เสมือนอะไรก็ไม่เป็นใจ โดยเหตุการณ์อยู่ในสายตาของเจ้ากระรอกเอเลียนหางงามที่สอดส่องและก็เยาะเย้ยน้องกรูท ในเวลาที่ 4 กลับมาในบรรยากาศสบายๆอีกรอบ แม้กระนั้นส่วนตัวแอบคิดว่าเป็นตอนที่มองยาวนานกว่าธรรมดาในขณะที่ความยาวไม่เกิน 4-5 นาทีเสมือนตอนอื่น ส่วนความน่ารักน่าเอ็นดู ความกวนของน้องกรูทก็ยังเป็นลักษณะเด่นดังเดิม
รีวิวหนัง “The Phantom of the Open”
ฝันเพลิดเพลินไปกับนักเล่นกอล์ฟไม่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ เข้ามาเป็นหนังเช่าเรื่องใหม่ของทรูไอดีในอาทิตย์ เป็นหนังเล็กๆจากอังกฤษที่พวกเรายินดีพรีเซนเทชั่นและก็ต้องการถือมาให้ทุกๆคนได้ทดลองเปิดใจมองกันสักนิด ด้วยเหตุว่าบอกได้เลยว่า..มันออกจะได้ผลลัพธ์ที่เกิดคาดอยู่ไม่น้อย ด้วยเหตุว่านี่เป็น “The Phantom of the Open (ป๋าหัวใจซู่ส์)” หนังดราม่าขำขันที่ถือเอาตำนานของนักเล่นกอล์ฟที่ขึ้นชื่อว่าทำแต้มวงสวิงได้ห่วยแตกที่สุดในประวัติศาสตร์เกมกีฬาจำพวกนี้ แม้กระนั้นชื่อแล้วก็ความฝันของเขาแปลงเป็นที่จารึกเอาไว้ไปนิรันดร
‘Magnum Opus’ ในขณะที่ 5 หากแม้เรื่องราวจะมองเรียบแค่น้อขี้เหนียวรูทอยาปัดกวาดภาพครอบครัว ดูหนังออนไลน์ hd แต่ว่าขึ้นชื่อว่าเป็นซูเปอร์ฮีโรแสนดื้อรั้น ฉะนั้นภารกิจกล้วยๆก็แปลงเป็นความเถิดเทิงชักชวนฮาอย่างช่วยไม่ได้ จบท้ายด้วยในตอนที่ราวกับเอาอกเอาใจแฟนคลับของ ‘Guardians of the Galaxy’ สุดๆเพราะเหตุว่ามีค้างมีโอที่มาแบบมองเห็นลางๆและก็แขกรับเชิญสุดเซอร์ไพร์สที่พักว่าแฟนคลับเหล่า “ผู้รักษาจักรวาล’ ต้องกรี้ดแน่ๆ
The Phantom of the Open เกิดเรื่องราวของ มอริส ฟลิตครอคอยฟท์ คนงานท่าเรือผลิตภัณฑ์ที่มีนิไม่ตฝันที่ยิ่งใหญ่ ที่ทำให้เขาตกลงใจก้าวเข้ามาสู่แวดวงกีฬากอล์ฟด้วยความตั้งใจของตน เขาร่วมแข่งขันในโปรแกรมบริติช โอเพ่น ปี 1978 โดยที่ไม่เคยมีประสบการณ์เล่นมาก่อน รวมทั้งโน่นเป็นจุดเริ่มแรกของสมญานามอันมีชื่อเสียงของเขา ซึ่งถูกข้อกำหนดเอาไว้ว่าเขาเป็นนักกีฬากอล์ฟที่มีคะแนนการเล่นได้แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์เท่าที่โลกเคยบันทึกเอาไว้ แม้กระนั้นมันกลับกลายสิ่งที่สร้างแรงผลักดันให้กับผู้อื่นทั่วทั้งโลก
เคล็ดวิธีโรโตสวัวป (แอนิเมชั่นที่นักสร้างแอนิเมชั่นวาดตามภาพต้นฉบับฟิล์มถ่ายรูปต่อเฟรมเพื่อใช้ในฉากสมจริงสมจัง และก็ใช้ผู้แสดงจริงมาแสดงฉากนั้นๆก่อนจะวาดแอนิเมชั่นซ้อนทับเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง) ที่ผู้กำกับริชาร์ด ลินเคลเตอร์ เลือกใช้อันที่จริงแล้วเขาเคยใช้เคล็ดวิธีนี้ใน A Scanner Darkly (2006) มาแล้วคราวหนึ่งซึ่งจะว่าไปเคล็ดลับนี้ใส่รับกับรายละเอียดแล้วก็เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเรื่อง อันว่าด้วยภาพฝันครึ่งจริง ที่ราวกับการแทนภาพนักแสดง (สแตน) ให้เข้าไปอยู่ในประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของมวลมนุษยชาติ รวมทั้งแปลงเป็นความจำในวัยเด็กที่ติดตรึงเอาไว้ในจิตใจ
โดยภาพรวมแล้ว ‘I am Groot’ ดูเหมือนเป็นงานมองระงับความเครียดที่ทำมาเอาอกเอาใจผู้ชมคอนเทนต์ยุคนี้จริงๆแต่ว่าก็เหมาะกับผู้ที่มิได้เป็นจริงเป็นจังหรือจ้องมองจะจับว่ามันจะโยงไปหนัง ‘Guardians of the Galaxy Vol.3’ ที่จะฉายในปีต่อไปอย่างไร เนื่องจากเรื่องราวของอีกทั้ง 5 ตอนก็ดูเหมือนเป็นสถานะการณ์สั้นๆย้ำสร้างความตลกเสียมากกว่า ซึ่งก็จำเป็นต้องสารภาพล่ะครับผมว่ามันดูเหมือนกับว่าคลิปการ์ตูนสั้นๆที่ดิสนีย์ถนัดและก็สามารถต่อยอดไปสู่คอนเทนต์สำหรับเด็กได้อย่างดีเยี่ยม
เปิด Netflix มารีทิวทัศน์ Resident Evil
สร้างอีกจำนวนกี่ครั้งก็ยังพังทลายไม่เลิก Resident Evil นับว่าเป็นแบรนด์คอนเทนท์ที่ทรงประสิทธิภาพไม่แพ้กับ “บ้านทรายทองคำ” ในบ้านพวกเรา เรียกว่าจะสร้างจำนวนกี่ครั้ง ก็ยังสร้างความระทึกใจให้กับแฟนเกมได้อยู่เป็นประจำ แม้กระนั้นพวกเราก็เริ่มจะสงสัยแล้วว่า ตกลงมันเป็นอาถรรพณ์หรือไม่ ที่ไม่ว่าจะปรับปรุงต่อในเวอร์ชั่นหนังหรือซีรีส์ ยิ่งทำก็ยิ่งเหลว
ภายหลังจากตอกตะปูปิดฝาโลกไปแล้วกับหนัง Resident Evil: Welcome to Raccoon City ซึ่งเป็นหนังที่สามารถพูดได้ว่ายึดส่วนประกอบจากเกมในหนังภาคแรกแล้วก็ภาคลำดับที่สองมาอย่างสุจริตที่สุด จนกระทั่งแฟนคลับกำเนิดอาการว้าวตั้งแต่ที่ได้มองเห็นแบบอย่าง ดูหนังออนไลน์ hd แต่ว่าแปลงเป็นว่าส่วนประกอบจากเกมก็ไม่สามารถที่จะโอบอุ้มหนังอีกทั้งเรื่องที่อิรุงตุงนังไปหมดได้เลย
ส่วนจุดด้วยสำคัญเป็นระบบสำหรับในการเผยแพร่บนดิสนีย์พลัส ฮอทสตาร์นี่แหละครับผม เพราะเหตุว่าแทนที่จะรวมเป็นคอนเทนต์เดียวแล้วเล่นตลอดได้อีกทั้ง 5 ตอนแม้กระนั้นไม่รู้เรื่องงานนี้ดิสนีย์คิดอย่างไรลงเป็นคลิปแยกทำให้จำต้องมาหาแต่ละตอนเอาเองซึ่งที่ตรงนี้สารภาพว่าเสียเวล่ำเวลาอยู่เช่นเดียวกัน แม้กระนั้นพอใช้ได้มองครบ 5 ตอนแล้วหลังจากนั้นก็โอเค..ความน่ารักน่าเอ็นดูของน้องกรูทยอมชูคุณประโยชน์ให้เชลยก็ได้
หนังประเด็นนี้ปรับเปลี่ยนมาจากหนังสือขายดิบขายดีที่ชื่อเดียวกันของ “สก็อต เมอร์เรย์” ที่เจาะลึกรวมทั้งเขียนถึงเรื่องราวชีวิตของ มอริส ฟลิตครอคอยฟท์ ในด้านมุมที่คนไหนอาจไม่ทราบ โดยถูกเอามาเขียนบทหนังขึ้นมา โดยได้ “ไซมอน ฟาร์นาบีย์” (จาก Paddington 2) มากล่อมเกลารวมทั้งปลุกปั้นเรื่องนี้่ให้ ที่แน่ๆว่า The Phantom of the Open ก็มีความสะอาดแล้วก็เรียบง่าย เป็นหนังที่เต็มไปด้วยโทนฟีลกู้ดและก็ตลกสไตล์เมืองผู้ดี เป็นสูตรสำเร็จของหนังอังกฤษที่ชอบถือมาใช้เป็นแนวทางเล่าหนัง
นี่เป็นผลงานการดูแลหนังใหญ่เรื่องที่ 3 ของดาราหนังที่ผันตัวมาดำเนินงานเบื้องหน้าเบื้องหลัง อย่าง “เกร็ก โรเบิร์ตส์” ที่จำต้องเห็นด้วยว่าความสามารถของเขาเริ่มปรับปรุงขึ้นเรื่อยเมื่อจำต้องมาจับจับสร้างภาพยนตร์เชิงอัตประวัติจากบุคคลที่เคยมีตัวตนอยู่จริงนั้น จัดว่าเขาค่อนข้างจะสอบได้สำหรับการมอบมุมมองและก็วิสัยทัศน์สำหรับเพื่อการเล่าได้ออกจะมีอรรถรส ถึงแม้ว่าจังหวะของหนังจะออกจะราบเรียบไปสักนิดสักหน่อย แต่ว่าหนังก็ยังมีกิมไม่กรวมทั้งส่วนประกอบเสริมแบบคลาสสิกๆหยอดใส่เข้ามาเป็นสีสันตลอดทาง
ต่อแต่นี้ไปเพียงพอมาถึง ‘Carter’ เห็นด้วยเลยว่านี่เป็นหนังที่ถูกออกแบบมาให้บย็อง-กิล ควบคุมโดยเฉพาะ ด้วยความที่พล็อตสายจำอะไรไม่ค่อยได้ก็เอื้ออย่างมากให้การดำเนินเรื่องเปรียบเสมือนเรากำลังเล่นวิดีโอเกมแล้วก็ไอเทมที่ผู้ชมจะได้เป็นรายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้ของตัวละครที่เรารู้จักเพียงแค่ชื่อคาร์เตอร์ แต่เช่นเดียวกันกับบย็อง-กิลจะหนักมือไปหน่อยเนื่องจากว่าแค่เพียงซีนแอ็กชันซีนแรกเขาก็เล่นมุมกล้องที่เอาไว้สำหรับถ่ายภาพทดสอบเทคสุดฉวัดเฉวียนถ่ายอีกทั้งโดรนอีกทั้งสเตดี้แคมแล้วหลังจากนั้นก็กล้องที่เอาไว้สำหรับถ่ายภาพรถยนต์บังคับแบบไม่กลัวผู้ชมคลื่นไส้คืนสารอาหารสู่ที่ดินอย่างยิ่งจริงๆ
ซึ่งแน่นอนเลยว่าการเตือนแรกของเราเป็นใครไม่ถูกโรคกับหนังที่กล้องส่ายไปส่ายมา ‘Carter’ น่าจะเป็นหนังที่คุณต้องหลีกเลี่ยงหรือคนไหนกันแน่จะทดลองก็ขอให้ผ่าน 15 นาทีแรกของหนังไปให้ได้ก่อน ใช่แล้วขอรับ เป็นหนังถ่ายทดสอบเทคและมูฟเมนต์กล้องถ่ายรูปก็ส่ายไปส่ายมาทั้งความเป็นจริงๆแต่ก็มีความคิดเห็นอยู่เหมือนกันว่าการที่หนังใช้เทคนิกมากมาย
ใช้กล้องที่มีไว้ถ่ายภาพนานัปการผสานการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกมาช่วยสำหรับการตัดต่อก็ทำให้ “รอยต่อ” ของแต่ละช็อตเห็นได้ชัดอยู่เหมือนกัน ไม่ได้แนบเนียนเปี่ยมศิลปแบบหนังอย่าง ‘1917’ หรือ ‘The Revenant’ ที่ซ่อนช็อตด้วยการถ่ายทิลต์กล้องถ่ายสำหรับรูปถ่ายฟ้าหรือหลบด้านหลังวัตถุแต่ก็เช่นเดียวกันกับ ‘Carter’ จะกระจ่างในช่องทางภาพแบบวีดีโอเกมของมันอยู่นะครับ
มีทั้งบรรยายไทยและอธิบายญี่ปุ่นให้ได้รับมอง ส่วนตัวทั้งยัง 2 ชี้แจงค่อนข้างจะโอเค ถึงแม้ว่ามีความต่างกันอยู่บางจุด เป็นต้นว่า เล่าญี่ปุ่นของผู้แสดงไม่อง ค่อนจะที่จะกวนใจมากกว่าบรรยายไทย ด้วยการบีบเสียงเล็กๆมันเลยทำให้คาแรคเตอร์ของเล่าญี่ปุ่นกระจ่างแจ้งกว่า ในด้านศิลปินอื่นๆค่อนจะใกล้เคียงกันอยู่ สามารถเลือกมองดูได้ตามความชื่นชมยินดีเลย
ส่วนฉากแอ็กชันในหนังก็จำเป็นต้องเห็นด้วยว่า บย็อง-กิล ก็ยังยึดติดกับช็อตซิกข์เนเจอร์อย่างการพุ่งตัวพ่อระจกแล้วหลังจากนั้นก็ช็อตต่อสู้บนด้านหลังรถจักรยานยนต์ที่เกือบจะลอกจาก ‘The Villainess’ ของตนเองมามากมายเหมือนกัน แม้ปัจจุบันนี้สเกลฉากแอ็กชันจะใหญ่มหึมาขึ้นมีการเดินทางผ่านประเทศ มีมูฟเมนต์ของผู้แสดงในช่วงเวลากลางวันแต่ลูกเล่นในซีนแอ็กชันต่างๆก็ไม่ได้เป็นของใหม่สำหรับคอหนังแอ็กชันทั้งฉากดวลกระสุนในที่แคบ ฉากบู๊บนฟ้าด้านหลังเครื่องบินระเบิด หรือมุกหนังเผชิญภัยยุคสปีลเบิร์กอปิ้งฉากเดินผ่านเขาด้วยบันไดไม้ใกล้พังทลาย
ซึ่งในภาพรวมของคุณภาพงานควบคุมและถ่ายทำฉากแอ็กชันเราก็คงยังพอให้คะแนน บย็อง-กิลด้วยเกรดสูงลิบลิ่วได้เพราะมันก็ตื่นตาตื่นใจรวมถึงดุร้ายสาแก่ใจดีจัง เพียงองค์ประกอบที่หนังเรื่องหนึ่งจะเป็นหนังก็ดีแล้วก็ดูเบิกบานได้บางครั้งอาจจะพึ่งฉากแอ็กชันอย่างเดียวไม่ได้แต่ควรต้องมีบทภาพยนตร์ที่แข็งแรง ซึ่ง ‘Carter’ ไม่ได้อยู่ในข่ายงานที่ขายบทภาพยนตร์ที่รัดกุมและแข็งแรงหรอกนะครับ เราเลยแลเห็นหนังสร้างเงื่อนขึ้นมาแล้วทิ้งมันไปดื้อรั้นๆเพื่อหาทางพาเราไปพบบิ๊กบอสจนกระทั่งอดอีหยังวะไม่ได้
ใครกันแน่ที่อ่านรีวิวมาถึงนี้ต้องการให้ทดสอบเปิดใจดูอนิเมะหัวข้อนี้ เนื่องจากแม้เรื่องราวจะเพียงพอเดาทางได้ งานภาพพอเหมาะ แต่ด้านพลังพิเศษของศิลปินต่างๆมันน่าติดตามมากไม่น้อยเลยทีเดียวอย่างยิ่งจริงๆและความสนุกสำหรับการคิดพินิจพิจารณาการใช้พลังของผู้แสดงนำชายที่ค่อนข้างจะมีกฎเกณฑ์ที่รัดกุมเลยทำให้เพิ่มความน่าดึงดูดใจเข้ามาได้มากพอสมควร รวมถึงเป้าหมายของผู้แสดงนำชายในหัวข้อนี้ที่จะทำเป็นเสร็จไหม ต้องทดสอบไปติดตามรับมองกัน ในแข่งขันหน้า 5 วิเปิดศึกมรณะ
รีวิวThirteen Lives
เหลือเฟือกว่าน้ำฝนก็อารมณ์ผู้ชมนี่แหละ ถึงแม้ผ่านมา 4 ปีที่นั้นถึงแม้ว่าสถานะการณ์หยุดโลกอย่างภารกิจช่วยเหลือเยาวชนกรุ๊ปบอลหมูป่าและคนฝึกเอกรวม 13 คนออกมาจากถ้ำหลวงก็ได้กลายเป็นเรื่องราวสุดเกินจริงที่เหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ต่างหาทางเอามานำเสนอในแบบของตนเองโดยมี ‘The Cave นางนอน’ หนังไทยฝรั่งควบคุมของ ทอม วอลเลอร์ (Tom Waller)
ผู้กำกับที่ผลิตหนังไทยอย่างสม่ำเสมอบอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้ของกรุ๊ปมุดน้ำต่างแดนในภารกิจนี้ออกฉายพร้อมดราม่ารอบสื่อที่ท่านสมัยโบราณผู้ว่าราชการจังหวัดวอล์กเอาต์รวมทั้งว่าขานหนังอย่างมาก ออกฉายนำร่องไปก่อนแล้วในปี 2019 และในปีนี้ ‘Thirteen Lives’ อีกหนึ่งหนังจากหัวข้อนี้ก็ได้จังหวะฉายทางสตรีมไม่งสมาชิกใหม่อย่าง Prime Video ในวันนี้
เรื่องราวทั้งสิ้นของหนังได้อ้างอิงจากความจริง ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อปี คริสต์ศักราช 1996 เกี่ยวกับกลุ่มนักปีนเขาที่ขึ้นไปปราบยอดดอยที่สูงที่สุดในโลก.. “เอเวอเรสต์” ในประเทศเนปาล หากผู้ใดกันอยากทราบก็ทดสอบเสิร์ชกูเกิลหาดูได้ “1996 Mount Everest” แม้กระนั้นถ้าหากไปทำความเข้าใจกับเรื่องราวของตัวหนังเอาในโรง ก็จะได้อารมณ์อีกแบบ ผลงานหนังฉาวสุดฮือฮาของผู้กำกับ พอล เวอร์โฮเวน ที่จัดเต็มไม่ยั้งทั้งความรุนแรง เซ็กส์ และศาสนา โดยเฉพาะฉากโจ่งครุ่มที่เรียกได้เลยว่าแลเห็นสรีระของหญิงสาวตัวแสดงนำประเภทหมดเปลือกกันอย่างยิ่งจริงๆ
เมื่อกล่าวถึงผู้กำกับอย่างพอล เวอร์โฮเว่น คนในเจเนอร์เรชั่น 90 น่าจะจะต้องเคยผ่านตากับหนังของเขากันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นหนังอย่าง ROBOCOP (1987) ซึ่งถือว่าเป็นผลงานแจ้งเกิด ก่อนจะได้ทำหนังเรื่อง Total Recall (1990) นำแสดงโดยอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์และชารอน สโตน แม้กระนั้นหนังเรื่องดังที่ยังแปลงเป็นตำนานค้างฟ้าให้กับหนังสไตล์ฟิล์มถ่ายภาพนัวร์ซึ่งมีตัวละครเอกเป็น “หญิงร้าย”เป็นBasic Instinct (1992) โดยชารอน สโตนมาพร้อมด้วยฉากไขว่ห้างสุดลือลั่น จนถึงทำเอากองเซ็นเซอร์ทั้งโลกถูกตาเหลือกตา!
แม้กระนั้นสิ่งที่ว่าไม่ได้เลยของหนังก็คือการแสดงของ จูวอน นี่แหละครับด้วยเหตุว่างานนี้นักแสดงนำชายผู้ชายจากซีรีส์เป็นที่นิยมอย่าง ‘Good Doctor’ จำเป็นที่จะต้องกลับจากงานดราม่าหนักๆสู่การใช้ร่างกายแบบไม่กลัวพังทลาย ซึ่งผมได้ศึกษางานแถลงข่าวของหนังแล้วทางจูวอนเองก็เห็นด้วยว่าไม่มีทางใดวันหนึ่งที่เขาจะไม่ได้แสดงฉากแอ็กชัน
ซึ่งโน่นเรียบร้อยสำหรับในการฝึกเนื่องจากฉากแอ็กชันแต่ละฉากก็เสี่ยงตายอยู่สิ่งเดียวกันโดยเฉพาะฉากดวลกันกลางเวหาที่หนังถ่ายฉากสตันท์จริงๆเช่นเดียวกันกับที่ ทอม อาจารย์ซ แสดงใน ‘Mission Impossible : Fall Out’ อีกทั้งจูวอนก็ไม่ลืมเลือนที่จะแสดงในฉากดราม่าที่แม้ว่าจะมีน้อยแม้กระนั้นก็ทำให้หนังแอ็กชันเลือดสาดประเด็นนี้เพียงพอมีหัวหัวใจอยู่บ้างครับผม
ตัวหนังจริงๆจำเป็นต้องเห็นด้วยเลยว่ามุมมองการถ่ายทำในเรื่องของทิวภาพทิวภาพ ทำเป็นดีงาม สัมผัสได้ถึงความงดงามของสถานที่ ความท้าทายของการปีนยอดดอยเอเวอเรสต์ และรายละเอียดของทริปตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งจบ เนื้อหาของหนัง ดูแล้วได้ทั้งแรงกระตุ้น ความตื้นตันใจ และเข้าใจมุมมองของชีวิต เป็นหนังที่หากว่าคนไหนกันกำลังเผชิญหน้ากับมรสุมชีวิต คงจะช่วยก่อให้เกิดพลังใจและแรงฮึดสู้ได้
แสดงถึงมุมมองของคนที่เราเจออยู่ในชีวิตประจำวัน แล้วก็ความเป็นคน การแก่งแย่งชิงดี ความเห็นแก่ตัว การเอาตัวรอด การเสียสละ จิตใจที่ทำเพื่อคนอื่นการยินยอมพร้อมใจรับลิมิตของตัวเอง หน้าที่ความรับผิดชอบ และการเรียนรวมทั้งกระทำการศึกษาค้นพบสิ่งที่สื่อความหมาย แรงผลักดันที่ทำให้เราขยับไปข้างหน้า ไม่ยอมแพ้
การถ่ายทอดเรื่องราวของหนัง คุณลักษณะเด่นไม่ได้ย้ำไปที่ความระทึกใจอย่างกับหนังเสี่ยงภัยมรสุมเรื่องอื่นๆแต่ว่าก็มีฉากตื่นเต้นที่เสียวจากมุมมองกล้องและก็การตัดต่ออยู่เหมือนกัน ตัวหนังจุดโฟกัสที่ลักษณะท่าทางของดาราแต่ละตัว และความสัมพันธ์ของพวกเขา การตัดสินใจ การโต้ตอบกันของแต่ละคนในเรื่องแตกต่าง หากแม้ใครกันแน่ที่พอเพียงมีความรู้และความเข้าใจเรื่องเอเวอเรสต์อยู่บ้าง คงจะเพียงพอทราบว่า เอเวอเรสต์เป็นสถานที่ที่จะทำให้ตัวตนแท้จริงจริงของคนแสดงออกมา ยิ่งไต่สูงขึ้นก็ยิ่งแสดงความเป็นตัวตนแต่ละคนให้ออกมามากเพิ่มขึ้น
รีวิวหนัง Montana Story
มอนทานา สายเลือดความสัมพันธ์รัก สวยในรอยแผลลึก ถึงคิวของหนังดราม่ารสดีที่บางสื่อในเมืองนอกยกให้เยี่ยมในหนังขึ้นหิ้งเชยชมในตอนครึ่งแรกของปี 2022 นี้ทีเดียว หนังที่อาจจะอยู่นอกสายตาผู้ชม แต่มาพร้อมกับงานขายการแสดงแล้วก็แนวทางโปรดักชั่นที่เรียบง่ายแต่เฉียบคม นี่เป็น “Montana Story มอนทานา สายเลือดความสัมพันธ์รัก” ความเข้มข้นของดราม่าที่เบาๆกัดกินผู้ชม ที่เคยเป็นที่เอ๋ยถึงพอใช้ในเทศกาลหนังโตรอนโตเมื่อปีที่ล่วงเลยไป
สำหรับ Benedetta ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงมาจาก Immodest Acts: The Life of a Lesbian Nun in Renaissance Italy นิยายผลงานการประพันธ์ของจูดิธ ซี.บราวน์ มาดัดแปลงให้แปลงเป็นภาพยนตร์ บอกเล่าเรื่องราวของ เบเนเดตต้า (เวอร์จินี เอฟิรา) เด็กสาวจากครอบครัวที่มั่งคั่งรวมทั้งเลื่อมใสในศาสนาคริสต์อย่างมาก คุณก็เลยถูกส่งตัวให้เข้ามาอยู่ภายใต้การฝึกหัดดูแลของสำนักชี ในคอนแวนต์เมืองเพสเซีย ประเทศอิตาลี โดยเสียค่าใช้จ่ายแรกเข้ามาเป็นเงินจำนวนไม่น้อย
ถึงแม้เทียบกับ ‘The Cave นางนอน’ แล้วสิ่งที่ ‘Thirteen Lives’ ใช้เป็นเค้าเรื่องก็มีนิดหน่อยที่ทาบทับกันสนิททั้งเรื่องของนักดำน้ำอังกฤษที่หนังเรื่องแรกใช้เป็นตัวละครหลักสำหรับเพื่อการดำเนินเรื่อง โดยเฉพาะมนุษย์กบชื่อคริส ที่มีในหนังทั้งยัง 2 เรื่อง ถึงแม้ว่าสิ่งที่ ‘Thirteen Lives’ ดูเหมือนจะก้าวผ่านกับเรื่องเล่าจากความจริงเป็นการที่หนังมุ่งพรีเซนเทชั่น ‘อารมณ์’ ผู้แสดงเป็นศูนย์กลาง ถึงแม้ว่าจะฉากเปิดเรื่องที่แม้ว่าจะมีฉากเตะบอล ฉากหยุดจักรยานหน้าถ้ำแล้วเดินเข้าไปเหมือนกัน แต่หนังก็ทำให้เห็นความเป็น “มนุษย์” มากกว่าความเป็น “บุคคลในข้อมูล” แบบในหนังเรื่องแรก
แล้วก็เมื่อหนังได้พรีเซ็นท์ดาราฝั่งไทยอย่าง นายณรงอำทุ่งนาจ ข้าหลวงประจำจังหวัดจังหวัดเชียงรายในเวลานั้นและคณะทำงานบางส่วนอย่างกรุ๊ปวิศวกรน้ำที่มีส่วนช่วยสำหรับในการผันน้ำออกมาจากถ้ำไปแล้ว การที่หนังไปจุดโฟกัสดาราหนังนักดำน้ำในถ้ำอย่าง ริค แล้วหลังจากนั้นก็ จอห์น พร้อมปูสถานะที่ต่างกันเมื่อข้างแรกเป็นหนุ่มโสดป้ายปิดประกาศตัวว่าไม่ได้ชื่นชอบเด็กด้วยกับฝ่ายหลังที่เป็นพ่อที่มีลูกชายพร้อมแนวคิดที่แทบจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิงก็สร้างความดรามาว่ากล่าวกให้เรื่องราวที่ถูกหุ้มห่อด้วยข้อมูลที่คนทั่วทั้งโลกรู้อยู่แล้วได้อย่างพอดิบพอดี
Montana Story เกิดเหตุราวดีใจสะเทือนอารมณ์ของเครือญาติที่ห่างเหินกัน อย่าง เอริน กับ ค้างล ที่พวกเขากลับมาที่บ้านฟาร์มที่อยู่ท่ามกลางดินแดนอันเวิ้งว้างของเมืองมอนทาน่า เป็นสถานที่ที่พวกเขาเคยถูกอกถูกใจในวัยเด็ก แม้กระนั้นเกลียดเมื่อเติบโตขึ้น พร้อมกับเลือกที่จะหนีจากสถานที่ที่นี้ไป การกลับมาเหยียบที่ของพวกเขาได้มาเผชิญหน้ากับมรดกที่แสนตรอมตรมที่เป็นรอยแผลฝังลึกเอาไว้ในหัวใจของครอบครัวเล็กๆของชาวอเมริกันแท้
นี่สำเร็จงานของ 2 เพื่อนสนิทผู้กำกับ “สก็อต แม็กกีห์” กับ “เดวิด ซีเกิล” ที่เคยสร้างความซาบซึ้งให้ผู้ชมมาแล้วในหนัง Bee Season เมื่อแทบ 20 ปีก่อน พวกเขากลับมาจับจับประดิษฐ์งานหนังดราม่าสไตล์ถนัด พร้อมทั้งพ่วงตำแหน่งเขียนบทหนังหัวข้อนี้รู้จักดีด้วย ถ้าว่าภาพหน้าหนังอาจจะดูไม่ได้สะดุดตาน่าสนใจอะไร แต่เนื้อในของหนังเรื่องนี้ค่อนจะลึกซึ้งรวมทั้งเป็นเสมอเหมือนน้ำหยดลงบนหินในวันแล้ววันเล่าอะไรทำนองนั้น
และก็การใช้บริการศิลปินระดับเอลิสต์อย่าง วิกโก มอร์เทนเซน (Viggo Mortensen) และก็ โคลิน ฟาเรลล์ (Colin Farell)มาแสดงเป็นริครวมทั้งจอห์นนี่แหละครับเป็นการดึงให้หนังสามารถโน้มน้าวอารมณ์ผู้ชมได้โดยไม่ลืมเลือนที่จะพูดถึงบริบทรุมล้อมทั้งภารกิจผันน้ำที่เอาความเสียสละของเกษตรกรในพื้นที่มาสร้างอารมณ์ดราม่าเชิญชวนน้ำตาซึมให้หนังได้อย่างพอดิบพอดี หรือจนตราบเท่าภารกิจของนายสิบแซมที่ได้เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ wow slot 008 มารับหน้าที่สำคัญก็เป็นการให้เกียรติกับความเสียสละของวีรบุรุษได้แบบที่ชาวไทยเองก็ไม่คิดว่าหนังไปโปรต่างขาว่ากล่าวเหมือนกับ ‘The Cave นางนอน’ ได้อย่างสะอาด