Mingelbingo รีวิวเว็บพนัน

ดูหนังใหม่ 2022 ดูหนังใหม่ หนังใหม่ฟรี HD 2022

ดูหนังใหม่ 2022 รวมทั้งแน่ๆว่าส่วนประกอบของกลุ่มดาราในหนัง See How They Run นับว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญรวมทั้งสะดุดตาที่สุดมากมายๆของประเด็นนี้ จะต้องขอบพระคุณการขับเขยื้อนของ 2 ดารานำ “แซม ร็อกเวลล์” กับ “เซอร์ชา โรนัน” ที่มาช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดไปของหนังหัวข้อนี้ แม้ว่าจะทิศเหนืออยรั่วได้ไม่ทั้งสิ้นก็ตาม แต่ว่าการแสดงของทั้งสองนับว่าทำออกมาได้ถูกใจ แล้วก็สมทบบาทตามมาตรฐานของทั้งสอง

หนังไม่มีอะไรมากมาย เดินเรื่องเรียบง่ายไม่สลับซับซ้อน จากเกมเมอร์ โดนทาบทามไปแข่งรถจริง คัดเลือกตัวโชว์ความสามารถได้ดีเยี่ยมที่สุดมีพรสวรรค์ ฝึกฝนๆๆๆแล้วก็ไปแข่งขันชิงชนะเลิศ เรื่องมันก็มีแค่นั้น เอาจริงเอาจังๆทางด้านเรื่องราวมันก็จัดว่าปกติ แถมการเดินเรื่องมันค่อนข้างจะราบรื่นไป มันไม่ค่อยมีจุดคอนฟลิกแบบแรงๆ

จุดหักอารมณ์ หรือจุดไคลแม็กสักเท่าไหร่ มิได้มีอะไรแปลกใหม่เลย ดูหนังใหม่ ทุกสิ่งทุกอย่างมันราบเรียบไปเสียหน่อย แล้วจุดขายจากเก่ง E-Sport มาขับขี่รถแข่งขันจริง มันก็เป็นการปรับปรุงแบบก้าวกระโจนเกินความจำเป็น มองไม่เห็นเอาจุดนั้นมาขยายความให้พอดีกันเท่าไรเลย มิหนำซ้ำนักแสดงแต่ละตัวยังมองแบนอีกต่างหาก การแสดงก็กล่าวได้ว่าปกติสุดๆ

แล้วก็ยังมีกลุ่มผู้แสดงสมทบที่มาช่วยคนละไม้คนละมือสำหรับเพื่อการประคองหนังประเด็นนี้ ไม่ว่าจะเป็น “เอเดรียน โบรดี้”, “รูธ วิลสัน”, “รีส แชร์สมิธ”, “แฮริส ดิกคินสั” และก็ “ชาร์ลี คูเปอร์” ที่ถือได้ว่าเป็นการผนึกกำลังให้หนังหัวข้อนี้มีน้ำหนักแล้วก็น้ำนวลเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่ากลุ่มแคสติ้งกลุ่มนี้บางทีก็อาจจะมิได้เด่นแล้วก็เต็มไปด้วยการไม่มีจุดเชื่อมต่อของกันและกันก็ตาม แม้กระนั้นนับว่ากลุ่มดาราของ See How They Run เป็นลักษณะเด่นของหนังหัวข้อนี้

ด้วยความอืดอาดยืดยาดแบบคนสูงวัย และก็ผิวหนังที่เป็นกระเหี่ยวย่นผมเร่ร่อน ฟันที่เหยเก น้ำลายเยิ้ม รวมทั้งดวงตาที่จ้องมองนิ่งขมึงตึง ซึ่งบางทีอาจรวมทั้งความประพฤติปฏิบัติพิศดารที่เหมือนผลจากโรคอย่างโรคสมองเสื่อมก็ทำให้รูปลักษณ์ของพวกคนวัยแก่ในเรื่องมองเป็นอสูรได้อย่างไม่น่าเชื่อ แล้วก็หลายทีบรรยากาศแรงกดดันของพวกเขายังเป็นเหตุให้รำลึกถึงชำเลืองตาบอดใน ‘Don’t Breathe’ (2016) เสียด้วยซ้ำ แม้ว่าจะดูดิบกว่าและไม่ประดิษฐ์เท่า

ดูหนังใหม่ 2022

เปิด Netflix มารีทิวทัศน์ The Unforgivable

บอกเล่าเรื่องราวของรูธ สลาเตอร์ (แซนดร้า บลูล็อค) โดยคุณพึ่งจะพ้นโทษออกมาจากคุก ภายหลังก่อคดีฆ่านายอำเภอจนถึงเสียชีวิต การต้องโทษตรงเวลาถึง 20 ปีในเรือนจำสายบัว ไม่ใช้ว่าจะง่ายเลยในการออกมาเริ่มชีวิตครั้งใหม่ สำหรับเพื่อการหางานทำเพื่ออุปถัมภ์ค้ำชูตนเอง ไม่ใช้ว่าจะง่ายอีกเช่นเดียวกัน เพราะว่าการเช็ดกตีตราว่าเป็นผู้ร้ายมือสังหาร ทำให้คนอื่นๆในสังคมกลัว แม้กระนั้นท้ายที่สุดรูธได้ทำงานที่โรงงานเชือดปลา และก็ในเวลาเดียวกันคุณเองยังมีความมานะบากบั่นที่จะติดต่อน้องสาวที่จากจากกันไปตั้งแต่ก่อนคุณเข้าเรือนจำ

ซึ่งเพศผู้ดูแลเชื้อสายเยอรมัน-โรมาเนีย แอนดี้ เฟตเชอร์ (Andy Fetscher) ที่เคยส่งผลงานสายโหดเหี้ยมในประเทศตนเองก็จัดหนักในหนังเน็ตฟลิกซ์ประเด็นนี้ของเขา ทั้งยังฉากการฆ่าที่มองเห็นกันชัดชัด รวมทั้งถึงแม้บางทีจะใช้มุมกล้องถ่ายรูปเข้าช่วยแม้กระนั้นในด้านความร้ายแรงก็ยังเหลือล้นอยู่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแต่งแผลแต่งความระบมของเหยื่อที่ทำเอาขนลุกขนพองทีเดียว

โดยสรุปแล้วนั้น See How They Run นับว่าเป็นหนังสอบสวนสืบสวนคลี่คลายปัญหาตามหาว่าคนใดเป็นผู้ร้าย ที่เล่าค่อนข้างจะได้เรียบเฉยเมย บางครั้งก็อาจจะมิได้น่าสนใจพอๆกับหนังแนวนี้เรื่องอื่นๆบทหนังที่ยังไม่แยบยลเท่า แต่ว่าก็มีดีที่กลุ่มดาราชุดใหญ่ที่จัดมาแบบใส่เต็ม เสน่ห์ของผู้แสดงนำฝ่ายเข้าขากันได้ด้วยดี ตอนครึ่งแรกบางทีอาจจะยังเฉยๆแต่ว่าพอเพียงไปสู่ตอนช่วงหลัง..เต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์ที่น่าประทับใจไปจนกระทั่งจุดเฉลยคำตอบ โดยรวมยังไม่ค่อยกลมกล่อมละมุนละไมมากเท่าไรนัก แต่ว่าก็ไม่ถึงกับห่วยแตกอะไรเลย

แต่ว่าจุดที่น่ายกยอที่สุดของหัวข้อนี้เป็นฉากการแข่งขันดริฟต์นี่แหละ โคตรดี ดูแล้วลุ้น ตื่นเต้น หวาดเสียว และก็เพลิดเพลินใจจริงๆ มีการสโลว์โชว์ฉากโก้เก๋ๆด้วย การวางมุมกล้องถ่ายรูปต่างๆที่แบบพวกเราได้มองเห็นการดริฟต์รถยนต์กันแบบสนิทสนมมากมาย มองเห็นกันแบบชัดๆแล้วก็ใกล้มากมายๆตอนมองยังคิดอยู่เลยว่าไปตั้งกล้องถ่ายภาพอย่างนั้นหรือใช้โดรนตอนนั้นตอนถ่ายทำมีพังทลายกันบ้างมั้ย

รวมทั้งพอเพียงไปอ่านบทสัมภาษณ์ของผู้กำกับ ปรากฏว่ามีการพังทลายจริงๆฉากการแข่งขันดริฟต์มีการใช้กล้องถ่ายภาพกับโดรนรวมกันกว่า 20 ตัว พังทลายไปกว่า 10 ตัว เป็นราวกับพวกเราไปดูโชว์ดริฟต์รถยนต์อะ แม้กระนั้นเป็นมุมภาพที่โคตรสนิทสนม ดูหนังใหม่ 2022 ความรู้มมาด้วยจุดที่น่ายกยออย่างเสียงประกอบ ที่หนักแน่น แน่ชัด ทั้งยังเสียงเครื่องจักรกล

เสียงเปลี่ยนเกียร์ เสียงล้อเสียดสีกับถนนหนทาง เสียงท่อไอเสีย ทุกสิ่งมันพอดีมากมาย ซึ่งทางด้านการถ่ายทำ การวางมุมกล้องถ่ายรูปอะไรต่างๆบอกเลยว่าไม่มีที่ว่ากล่าว แม้ว่าพวกเราดูแล้วจะยัง งวยงงๆว่ามันวินิจฉัยแพ้ชนะกันจากใดๆก็ตาม ข้อคิดเห็นอีกอย่างเป็นบางฉาก (ได้แก่ฉากช่วงกลางคืน) กล้องถ่ายภาพบางครั้งก็อาจจะประสิทธิภาพไม่สูงพอเพียง เนื่องจากมีซีนชัดๆที่มองเห็นได้เลยว่าภาพมันแตก ไม่ชัดเจน noise มาก กระทั่งทำให้มีความรู้สึกกระโดดมาเช่นเดียวกัน

ซึ่งน่าดึงดูดว่านอกจากแนวไล่เฉือน ผลงานก่อนหน้าของเขาในเยอรมันก็มีหนังที่เอ่ยถึงหลักสำคัญด้านสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มชนรวมทั้งพื้นที่ขอบอยู่ด้วย พวกเราก็เลยมองเห็นร่องรอยความนึกคิดที่เฟตเชอร์แทรกสอดในหัวข้อนี้ที่น่าดึงดูด ด้วยเนื้อความที่เอากันชัดๆอย่าง “ควรยกย่องคนวัยแก่ เพราะว่าพวกเขามีเยอะๆ แล้วก็วันหนึ่งเจ้าก็จะแปลงเป็นพวกเขา” ที่แสดงปัญหาช่องว่างระหว่างวัยที่คนวัยหนุ่มสาวละทิ้งคนวัยชราเยอะขึ้นเรื่อยๆ อย่างฉากที่พวกเขาเหม่อออกนอกหน้าต่างฟังเพลงจากงานมงคลสมรสที่ลอยมาไกลๆอย่างเหงาหงอยนั้นช่างน่าสลดหดหู่ใจเอามากๆ

รวมทั้งนัยที่ผู้แสดงหัวหน้าทีมคนชราที่บ้าซึ่งได้พูดว่าต้นเหตุที่พวกเขายืนขึ้นไล่ฆ่าวัยรุ่น ก็เนื่องจากว่าการกระทำต่อคนวัยแก่ที่ไม่มีความต่างจากสัตว์รวมทั้งตัดทอนค่าความเป็นคน ตามที่พวกเราเคยได้เห็นข่าวสารว่าสถานที่ดูแลคนวัยแก่บางที่ปฏิบัติกับพวกคนวัยชราอย่างไม่ให้เกียรตินัก ดังเช่นเอาสายยางฉีดล้างจ่ายตัว ฯลฯ

แต่ว่าถึงจะมีสิ่งจูงใจที่แจ่มกระจ่าง สิ่งหนึ่งที่หนังมิได้ให้คำตอบกับพวกเราเลยเป็น แล้วเพราะเหตุไรผู้สูงอายุทั้งหลายแหล่ถึงคลั่ง แถมมองโรคทางจิตและก็ทรงอำนาจขึ้น รวมทั้งบางทียังเสมือนติดต่อกันทางจิตใจได้รับรู้เรื่องรู้ราวคิดของพวกในขณะที่มิได้คุยหรืออยู่ร่วมกันเลยก็ตาม ดูราวกับว่าผู้กำกับต้องการจะทิ้งปัญหากลุ่มนี้ให้เป็นเพียงแต่การเกิดที่ยากรู้เรื่อง หรือไม่ก็ปูทางไว้สำหรับเผื่อได้สร้างภาคต่อด้วย

รีวิวซีรีส์ “Inside Man”

บอกได้เลยว่านี่เป็นเพียงแค่ไม่นิซีรีส์ ขนาดแค่เพียง 4 ตอน แม้กระนั้นเต็มไปด้วยแรงชนเต็มอัตรา แบบใส่ไม่ยั้งในทุกๆตอนของเรื่อง บทละครที่มิได้สลับซับซ้อนและก็เต็มไปด้วยความแหลมคมคายระดับขึ้นทิ้ง นี่เป็น “Inside Man” ซีรีส์แนวไขปัญหาคดีลึกลับ ที่แทรกสอดเงื่อนเอาไว้ได้น่าดึงดูดแล้วก็กลเม็ดเด็ดพรายลึกลับที่สะใจผู้ชมอย่างดีเยี่ยม นี่ก็เลยแปลงเป็นซีรีส์นอกสายตาของใครๆแต่ว่านี่เป็นไม่นิซีรีส์สั้นๆที่มีส่วนประกอบของ ฮัลนิบาล ผสมกับ เชอร์ล็อก โฮล์ม รวมทั้งยังมีกลิ่นความเป็น โคนัน ยอดสายลับ แบบอย่างคนคุกอะไรทำนองนั้น

แต่ว่าอีกสิ่งที่น่าดึงดูดเหมือนกันเป็น แม้ว่าจะมีความนัยที่กล่าวผ่านมุมมองของพวกผู้สูงวัยที่ต้องการลุกขึ้นยืนมาเอาคืนสังคมที่หลงๆลืมๆพวกเขา แม้กระนั้นการเล่าเรื่องกลับเน้นย้ำผ่านสายตาของคนวัยหนุ่มวัยสาวที่สวมบทบาทเหยื่อของเรื่อง ซึ่งอีกทั้งน่าเวทนาและก็น่าเอาใจช่วยอย่างยิ่ง พร้อมข้อความสำคัญที่เชิญฉุกคิดว่า เพราะอะไรถึงจำต้องเอาคืนพวกเขาอย่างหนัก ในเมื่อกรุ๊ปครอบครัวในเรื่องไม่เคยทำเรื่องไม่ดีกับพวกคนชราในหมู่บ้านนั้นเลย

นี้ก็น่าดึงดูดเช่นกันว่าผู้ผลิตตั้งมั่นติดต่อสื่อสารอะไร เป็นไปได้อีกทั้งว่าวัยรุ่นถึงมิได้ทำชั่วกับคนชราแต่ว่าเพียงแค่การละเลยต่อชะตาชีวิตของคนชราก็จะต้องรับกรรมแล้ว หรือบางครั้งอาจจะเป็นการเอ่ยถึงช่องว่างของวัยที่ทำให้รู้เรื่องกันมิได้พลาดท่า ต่างยึดมั่นความถูกต้องแน่ใจของตนทั้งคู่กรุ๊ป แล้วก็พวกคนวัยหนุ่มวัยสาวก็กำลังกลัวที่พวกคนรุ่นเก่าไม่ปล่อยวางช่วงให้พวกเขารับหน้าที่ขับถัดไป รวมทั้งความหวาดกลัวปัญหาที่เกิดขึ้นกับสังคมคนวัยแก่ที่จะมีมากมายขึ้น โดยวัยแรงงานมีน้อยลงแต่ว่าจำต้องดำเนินงานแบกรับภาระการดูแลกรุ๊ปคนวัยชราเยอะขึ้น

ความพากเพียรของรูธสำหรับการตามหาน้องสาวเริ่มตั้งแต่การเดินทางกลับไปยังบ้านข้างหลังเก่า สถานที่ซึ่งเกิดเหตุอาชญากรรมอันเป็นตัวการของเรื่องราวทั้งสิ้น แม้กระนั้นเมื่อเดินทางไปถึง รูธกลับได้มาพบว่าบ้านข้างหลังนี้ได้แต่งงานใหม่ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ โดยผู้นำครอบครัวอย่างจอห์น อินแกรม (วินเซนต์ โดโนฟริโอ้) ผู้ประกอบอาชีพทนายความ รับทราบได้ถึงความทุกข์ทรมานจากดวงตาของรูธ ทำให้เขาได้มอบนามบัตรรวมทั้งเปรยๆเอาไว้ว่า ถ้าหากว่ารูธอยากความช่วยเหลือเกื้อกูล เขาก็ยินดีที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยคุณ

หนังให้คำตอบไว้แล้วว่าจะผ่านปัญหาความไม่ถูกกันระหว่างวัยยังไง จำเป็นต้องทดลองไปดูเอาเอง แม้กระนั้นกันตามจริงสาระที่ว่ามาอย่างมากถ่วงในเรื่องปัญหาภายในสังคมนั้น แทบถูกความร้ายแรงแล้วก็ทารุณด้านภาพกลบไอเดียประดิษฐ์มิดแบบเดียวกัน อย่างไรก็แล้วแต่นี่เป็นหนังเขย่าขวัญที่มองเอามันเอาลุ้นในตอนเดือนฮาโลวีนเจริญเรื่องหนึ่งเลย รวมทั้งหากจะเชิญชวนคนพูดคุยถึงปัญหาภายในสังคมในหนังได้ต่อก็จะยิ่งดีไปใหญ่เลย

Black Adam หนังเรื่องใหม่จาก DC ที่เป็นโปรเจคเกี่ยวพันกับ Shazam! (2019) โดยแต่ก่อนแต่เดิมตัวเขาจะมาแสดงตัวในเรื่องด้วย แต่ว่าวันหลังก็เลิกไป ด้วยเหตุว่าต้องการให้มันมาเผยตัวเป็นภาคแยกก่อนจะไปเจอะกัน ซึ่งนี่เป็นผลงานการดูแลของ Jaume Collet-Serra ที่เคยฝากผลงานไว้ล้นหลามอย่าง House of Wax (2005), Orphan (2009), The Shallows (2016)

ปัจจุบันกับ Jungle Cruise (2021) พูดได้ว่าผลงานน่าไว้ใจในระดับนึงเลย รวมทั้งได้มากำกับประเด็นนี้ โดยช่วงแรกผู้ที่ทางค่ายเล็งไว้ก็ไม่ใช่เขา แม้กระนั้นเป็น Jordan Peele ที่ไม่ยอมรับอย่างเร็วว่าไม่ใช่แฟนหนังวีรบุรุษ ต้องการที่จะให้ช่องทางกับผู้กำกับที่พึงพอใจหนังแนวนี้จริงๆแล้วก็ผู้แสดงนำฝ่ายในประเด็นนี้ก็คือ Dwayne Johnson ที่แฟนคลับต่างเรียกร้องให้มารับบท Black Adam และก็ฝันของแฟนคลับก็เป็นจริง แถมเขายังทำเป็นดีอีกด้วย

Inside Man เกิดเรื่องราวของ เจฟเฟอร์สัน กริฟฟ์ ผู้ต้องขังคดีการฆ่ารอคอยโทษประหาร ที่เขาแปลงเป็นบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลสำหรับการค้นหาเงื่อนปัญหาคนหายอย่างไร้ร่องรอยได้อย่างแยบคาย ถึงแม้ตัวของเขาจะอยู่เพียงแค่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆที่ตารางเหล็กขังเอาไว้อยู่ เขาได้ร่วมมือกับผู้สื่อข่าวสาวคนประเทศอเมริกา เบธ ดาเวนพอร์ต คลี่คลายเงื่อนต่างๆในเวลาเดียวกัน เจนนิส อาจารย์สอนคณิตฯ ที่จำเป็นต้องมาติดอยู่ในห้องใต้ดินของบ้านข้างหลังหนึ่ง ภายหลังที่คุณบังเอิญไปมองเห็นบางอย่างที่ทำให้คุณจะต้องตกอยู่ในเหตุการณ์ที่ไม่ต้องการที่จะอยากให้เป็นแบบนี้

กลางทางของเรื่อง ผู้ชมจะเบาๆได้รับรู้เหตุการณ์ในสมัยก่อนทีละเล็กละน้อย ผ่านห้วงความจำของรูธ ว่าอันที่จริงแล้วเหตุที่คุณฆ่านายอำเภอนั้น เกิดมาจากสาเหตุอะไรกันแน่ รวมทั้งเพราะเหตุใดการต่อว่าดเรือนจำตรงเวลากว่า 20 ปี ถึงได้เปลี่ยนแปลงให้คุณแปลงเป็นผู้ที่ไม่อาจจะไว้ใจสิ่งใดๆบริเวณตัวได้เลย

บอกได้เลยว่า Inside Man มีไฮไลต์ที่สะดุดตาเป็นการเล่านั่นเอง สตอปรี่บางครั้งก็อาจจะมิได้สลับซับซ้อนอะไรมากมาย แต่ว่าถูกเอามาร้อยเรียงพรีเซนเทชั่นอย่างมีชั่นเชิงมากมายๆสามารถผสมส่วนประกอบรวมทั้งเหตุการณ์ต่างๆที่อยู่แยกกันให้เข้ากันได้อย่างคมคาย กับไต่ระดับอารมณ์ได้ขึ้นเรื่อยตามเหตุการณ์เบื้องหน้า ที่ผู้ชมเกือบจะไม่อาจจะคาดการณ์แนวทางของเรื่องได้เลย

แน่ๆว่า The Unforgivable มากับการแสดงของแซนดร้า บูลล็อคที่พิสูจน์ได้ว่า เว้นแต่ในสมัยหนึ่งคุณจะเป็นเจ้าแม่หนังรอม-คอม แม้กระนั้นเมื่อคุณเติบโตขึ้น (รวมทั้งเคยได้รับรางวัลออสการ์มาแล้วจาก The Blind Side ในปี 2009) ผลงานการแสดงของคุณยังพูดได้ว่า สม่ำเสมอและไม่เคยทำให้พวกเราผิดหวัง ในระยะเวลาที่คุณถ่ายทอดความเจ็บจากการเช็ดกตีตราว่าคุณเป็นผู้ต้องขัง

ฉากที่คุณเดินน้ำตาไหลซึมออกจากห้องอาหาร ภายหลังที่คุณได้บอกเรื่องจริงกับเบลค (จอน เบิร์นธัล) สหายร่วมงานที่ราวกับจะแอบมีใจให้รูธ แม้กระนั้นเขาก็กำเนิดอาการ “อึ้ง กิมกี่” ภายหลังที่ได้ฟังข้อเท็จจริงจากปากรูธ เป็นอีกหนึ่งฉากที่เกือบจะไม่ต้องจะชี้แจงอะไรมาก แต่ว่าการแสดงของแซนดร้า ได้มอบความรู้สึกว่าตัวเองผิดหวัง เศร้าใจ แล้วก็หมดหวังได้พร้อมเพียงกันในเวลาเดียว wow slot 008 ให้กับผู้ชมรู้เรื่องได้ในทันที